พระนครศรีอยุธยา - พบหมอเก่ง บุคลากรทางการแพทย์ รพ.สต.บางสระเก้า ถูกหามตัวส่ง รพ.อยุธยา หลังมาเข้าพักที่อยุธยาแล้วปวดท้องรุนแรงจนถ่ายเป็นเลือดและหัวใจหยุดเต้น
จากกรณี หมอเก่ง บุคลากรทางการแพทย์ รพ.สต.ในจังหวัดจันทบุรี ที่เป็นข่าวหายตัวไปจากบ้านในจังหวัดจันทบุรี ก่อนมาพบเช่าห้องอยู่กับคนสนิทในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ล่าสุด ถูกหามตัวส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา หลังเช่าโรงแรมพักในพื้นที่แล้วเกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรง
วันนี้ (13 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หมอเก่ง ได้เข้าพักรักษาตัวอาการป่วยที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา โดยพบว่าอาการสาหัส จากการตรวจสอบพบว่าหมอเก่ง รักษาตัวอยู่ภายในห้องไอซียู ของโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา
นพ.ราชิต เทอดสุวรรณ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา และนางอ่อนน้อม ธูปะวิโรจน์ พยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า หมอเก่ง อายุ 50 ปี ตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุข รพ.สต.บางสระเก้า ได้เข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยาจริง ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 04.00 น.ของวันนี้ ด้วยอาการปวดท้องรุนแรง ไม่รู้สึกตัว หัวใจหยุดเต้น แพทย์ได้ทำซีพีอาร์ จนฟื้นคืนชีพหัวใจชีพจรกลับคืนมาได้ ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ที่หอพักผู้ป่วยวิกฤต อาการค่อนข้างวิกฤต แพทย์ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด
ในเบื้องต้น ทราบข้อมูลจากแฟนของหมอเก่งเพียงว่า หมอเก่ง มีอาการปวดท้องเมื่อ 3 วันก่อน จนกระทั่งมาช่วงเช้ามืด ขณะที่มาพักอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หมอเก่ง มีอาการปวดท้องรุนแรงและเลือดไหลออกทางทวารจนต้องถูกหามส่งโรงพยาบาล
ซึ่งยังไม่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับประวัติว่าผู้ป่วยว่ามีโรคประจำตัวหรือเกิดจากอะไรกันแน่ คือต้องรอประสานทางครอบครัวให้ข้อมูลก่อน ซึ่งคาดว่าทางพ่อแม่ของหมอเก่งจะเดินทางมาถึงในช่วงมืดของวันนี้ ส่วนรายละเอียดอื่นๆคงต้องให้ญาติเป็นคนให้ข้อมูลเนื่องจากเป็นสิทธิของผู้ป่วย
ด้าน นายภานุวัฒน์ แช่มช้อย อายุ 41 ปี เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ ที่เข้าไปช่วยเหลือ เปิดเผยว่า ช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. ตนได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุมูลนิธิพุทไธสวรรย์ ให้รับผู้ป่วยที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ใกล้กับถนนสายเอเชียขาเข้ากรุงเทพฯ ใน ต.บ้านกรด อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้โทร.ไปสอบถามรายละเอียดอาการของคนป่วยกับทางญาติซึ่งทราบว่าเป็นแฟนกัน มีอาการปวดท้อง ถ่ายเป็นเลือด มีอาการเกร็ง
นายภานุวัฒน์ กล่าวต่อว่า สอบถามข้อมูลอะไรไม่ค่อยให้ข้อมูล ตนจึงแจ้งให้รอ กำลังจะไปรับต้องใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ระหว่างที่กำลังเดินทางไป แฟนได้โทร.กลับมาว่ากำลังจะไปส่งเอง กำลังแบกลงมาจากชั้นที่ 2 ตนจึงสอบถามอาการไปอีกครั้ง บอกกลับมาว่าคนป่วยยังมีอาการเหมือนเดิม ตนจึงบอกให้รอใกล้จะถึงแล้ว พอไปถึงบอกว่านำคนป่วยออกมาแล้ว ตนจึงให้จอดรอกลางทางจะรับผู้ป่วย พอไปถึงตนได้ตรวจดูอาการเบื้องต้นของคนป่วย รู้สึกตัวถามตอบได้บางประโยค จึงรีบนำขึ้นรถเพื่อนำส่ง วัดชีพจรความดันปกติ โดยแฟนของคนป่วยขอให้เร่งนำส่งคนป่วยไปที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา โดยเร็วที่สุด พอถึงโรงพยาบาลนำส่งเข้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล ทางแพทย์ได้ทำการเร่งตรวจวัดชีพจร ทำซีพีอาร์ ได้ประมาณ 15 นาที แพทย์ใส่อุปกรณ์ช่วยหายใจ เคลื่อนย้ายไปรักษาตัวชั้นที่ 2
นายภานุวัฒน์ กล่าวต่อว่า ส่วนรายละเอียดผู้ป่วยว่าเป็นใครมาจากไหนตนไม่ทราบ แฟนคนป่วยไม่ค่อยบอกอะไร บอกเพียงว่า มาจังหวัดจันทบุรีและแวะพักที่อยุธยา ดูจากลักษณะของคนป่วยมีอาการปวดท้องนอนงอตัว
ต่อมา ทีมข่าวเดินทางไปที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังได้รับแจ้งจาก พ.ต.อ.อดิเรก โปธิปัน ผกก.สภ.บางปะอิน นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อหาข้อเท็จจริง กรณีที่ หมอเก่ง ซึ่งเป็นบุคคลที่หายตัวไปจากจังหวัดจันทบุรี มาพักที่โรงแรมแห่งนี้พร้อมกับเพื่อนชายคนสนิท หลังจากที่ทั้งคู่ขับรถกระบะสีขาวออกมาจากร้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.นนทบุรี ช่วงดึกที่ผ่านมา
ทางพนักงานโรงแรมได้เปิดเผยไทม์ไลน์ ซึ่งกล้องวงจรปิดจับภาพเวลาเข้าและออก ในการเข้าพักของหมอเก่ง และเพื่อนชายคนสนิท ช่วง 22.29 น. วันที่ 12 สิงหาคม 2567 ขับรถกระบะสีขาวมาพร้อมกับหมอเก่ง เปิดห้องพักหมายเลข 10 ระหว่างนั้นทั้งคู่ไม่ได้ออกจากโรงแรม จนช่วงประมาณ 03.00 น. ทั้งสองโทร.สั่งน้ำเป๊ปซี่ 1 ขวด น้ำเปล่า 2 ขวด ให้ไปส่งที่ห้อง กระทั่งช่วง 04.00 น. วันที่ 13 สิงหาคม 2567 ขับรถกระบะลักษณะเร่งรีบ เปิดไฟฉุกเฉินออกจากโรงแรมแห่งนี้ โดยไม่แจ้งให้พนักงานทราบ จนกระทั่งมาทราบข่าวหมอเก่ง มีอาการวิกฤตพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียูของโรงบาลพระนครศรีอยุธยา
โดยทางแม่บ้านที่ทำความสะอาดห้องได้นำกระติกน้ำเก็บความเย็นขนาด 750 ml มาให้ทางตำรวจดู ซึ่งเป็นเพียงหลักฐานเดียวที่หมอเก่งและเพื่อนชายคนสนิททิ้งไว้ในห้อง ในกระติกมีน้ำสีใสคล้ายน้ำเปล่าอยู่ก้นกระติก ไม่พบกลิ่น ทางตำรวจจึงเก็บไว้ตรวจสอบ
ต่อมาทางพนักงานโรงแรมได้เปิดห้องพักหมายเลข 10 ให้ทีมข่าวและตำรวจดู ภายในห้องพักมีเตียงนอนขนาดใหญ่ ที่แม่บ้านกำลังเก็บทำความสะอาด ไม่พบรอยเคลื่อนหรือสิ่งผิดปกติบนเตียงนอน ส่วนห้องน้ำในห้องนอนก็ไม่พบมีสิ่งผิดปกติ