สาวเผยนาทีถูกหนุ่มปริศนาขวางรถก่อนกระชากประตูขอขึ้นรถบนทางด่วน แถมใช้หมวกกันน็อกฟาดกระจกหลังไม่จอดให้ขึ้น ล่าสุดได้แจ้งความแล้ว วอนมามอบตัว เผยควรพูดจาดีๆ ขอร้องดีๆ เพื่อให้สอบถามที่มาที่ไปก่อน แบบนี้คือการคุกคาม
วันนี้ (10 มี.ค.) เฟซบุ๊ก “Panhathai Buranaprasoetkun" ได้โพสต์ข้อความ โดยระบุว่า “บันทึกเหตุการณ์ และสิ่งที่ได้เรียนรู้ในวันนี้ 09/03/2024 ณ ทางด่วนด่านเลียบแม่น้ำ ถ.พระราม 3 ช่องนนทรี (ภาพเหตุการณ์ตามคลิปจากกล้องหน้ารถ) เวลาประมาณ 13.24 น. เราขับรถออกจากบริษัทเพื่อจะกลับคอนโดฯ ที่ห้วยขวาง เลือกที่จะขึ้นทางด่วนปกติ มีผู้ชายวัยกลางคน พร้อมถือหมวกกันน็อกในมือ ยืนอยู่บนทางด่วนห่างจากด่านเก็บค่าผ่านทางไม่ไกล เนื่องจากเราเป็นผู้หญิงขับรถคนเดียวไม่มีเจตนาจะจอดเพื่อรับคนแปลกหน้าให้ขึ้นรถไปด้วย แต่มีรถเก๋งสีน้ำเงินคันด้านหน้าที่อยู่เลนขวามือเปิดสัญญานไฟเลี้ยวซ้าย แล้วเลี้ยวปาดหน้ารถเรา เราเลยคิดว่ารถคันนั้นจะจอด ทำให้เราชะลอและเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินเผื่อมีรถตามมาข้างหลัง แต่รถสีน้ำเงินคันนั้นไม่จอดและขับไป ผู้ชายคนนั้นยืนขวางอยู่เลนซ้าย ทำให้เราขับรถต่อไปไม่ได้ แล้วผู้ชายคนนั้นก็เดินมาที่ประตูรถฝั่งผู้โดยสารด้านหน้า และพยายามเปิดประตู แต่เปิดไม่ออกเพราะประตูถูกล็อกอยู่ เขาพยายามดึงแรงขึ้น แล้วก็เอามือตีกระจกรถพร้อมตะโกนว่า
“ไปลงด้วยได้มั้ย! ผมขอลงหน่อย! ผมขอไปลงข้างหน้าหน่อยเด้!!!“ แล้วผู้ชายคนนั้นก็เอาหมวกกันน็อกฟาดที่กระจกฝั่งผู้โดยสารด้านหลัง ในขณะที่เราค่อยๆ เคลื่อนรถไปข้างหน้าด้วยความกลัว คิดแค่ว่าต้องเอาตัวเองออกจากบริเวณตรงนั้น พอพ้นจุดนั้นเรารีบโทร. 1543 เล่าให้ จนท.ปลายสายฟังว่าเกิดอะไรขึ้น และขอให้มี จนท.ที่รับผิดชอบไปจัดการกับผู้ชายคนนั้น เพราะรู้สึกว่าเขาอันตรายมาก ทาง จนท.ปลายสายแนะนำว่าหากต้องการแจ้งความให้ไปที่ สน.ทางด่วน 1 ตรงคลองเตย
คำถามคือ ผู้ชายคนนั้นขึ้นมาบนทางด่วนได้ยังไง? ยืนอยู่ตรงนั้นมานานแค่ไหนแล้ว? แล้วจุดเกิดเหตุใกล้กับด่านเก็บค่าผ่านทางมากๆ จนท.ตรงด่านเก็บค่าผ่านทางไม่มีใครสังเกตเห็นผู้ชายคนนั้นจริงๆเหรอ? ถ้าเราไม่โทร.แจ้งจะมี จนท.ที่รับผิดชอบมาจัดการมั้ย?
เวลาประมาณ 14.27 น. เราโทร.กลับไปที่ 1543 เพื่อถามว่าเป็นยังไงบ้าง จนท.ปลายสายแจ้งว่า จนท.ตร.ไปถึงจุดเกิดเหตุ ผู้ชายคนนั้นก็ไม่อยู่แล้ว ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด พบว่ามีรถกระบะคันหนึ่งจอดให้ผู้ชายคนนั้นโดยสารไปด้วย
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากเหตุการณ์วันนี้ คือ
1. สน.ทางด่วนไม่รับแจ้งความคดีอาญา เคสของเราถือว่ามีการทำลายทรัพย์สิน เป็นคดีอาญา ต้องแจ้งความต่อ สน.ในพื้นที่ที่เกิดเหตุนั้นๆ
2. หากเกิดเหตุแบบนี้ไม่ว่าเราอยู่คนเดียวหรือไม่ การล็อกรถเสมอ คือสิ่งที่ดีและปลอดภัยที่สุด
3. ถ้ามีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก ให้รีบหาจังหวะขับรถออกจากบริเวณนั้นเร็วที่สุด อย่าให้โอกาสคนคนนั้นมาถึงตัวรถเด็ดขาด
4. สติ คือสิ่งสำคัญ ตอนนั้นตกใจจนทำตัวไม่ถูก พูดไม่ออก เราต้องดึงสติไว้ แล้วพอออกมาบริเวณที่ปลอดภัย เราค่อยจอดรถ และเสียสติทีหลังได้
5. ก่อนออกเดินทาง ตรวจสอบสภาพการใช้งานของกล้องหน้ารถเสมอ เผื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดแบบครั้งนี้
สรุปเหตุการณ์ของวันนี้ เราทำการแจ้งความที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ ได้รับการดูแล และให้คำแนะนำที่ดีมากๆ จากคุณสารวัตรที่รับเรื่อง และมีทีมจากพิสูจน์หลักฐานตำรวจทำการเก็บลายนิ้วมือของผู้ก่อเหตุแล้ว
สุดท้ายนี้ เราอยากบอกผู้ชายคนนั้นว่าเราไม่รู้จักคุณ เราไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร คุณไปอยู่ตรงนั้นได้ยังไง คุณมีปัญหาชีวิตอะไร แต่พฤติกรรมที่คุณทำคือการคุกคามและทำลายทรัพย์สินของผู้อื่น คุณไม่แม้แต่จะพูดจาดีๆ ขอร้องดีๆ ไม่ให้แม้แต่คนบนรถได้ลดกระจกพูดคุยสอบถามที่มาที่ไป หรือให้โอกาสคนคนนั้นได้คิดตัดสินใจว่าจะรับคุณขึ้นรถรึเปล่า แต่คุณตีกระจก ทุบรถเราเลย ถึงคนคนนั้นจะไม่ให้คุณโดยสารไปด้วย มันก็คือสิทธิ์ของเขา คุณไม่มีสิทธิ์คุกคามและทำลายทรัพย์สินของใคร
อยากฝากแชร์โพสต์นี้ ถ้าหากมีครอบครัว ญาติ หรือคนรู้จักของผู้ชายในคลิปนี้ รบกวนบอกเขาให้มาแสดงตัวที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อรับผิดชอบต่อสิ่งที่ทำด้วยค่ะ”
คลิกชมคลิปวิดีโอต้นฉบับ