ชุมพร - ตำรวจคุมตัวลูกสาวทำตัวไฮโซเช่ารถหรูวันละหมื่นมาขับ ผู้ต้องหายิงพ่อตัวเองตายคาสวนทุเรียนหลังบ้าน แต่ไม่ยอมปริปากให้การใดๆ ทั้งสิ้น อ้างจะให้การในชั้นศาลเท่านั้น นำตัวส่งศาลฝากขัง
จากเหตุการณ์เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 23 กรกฎาคม 2566 พ.ต.ต.มาโนช ปลอดขันเงิน สว.(สอบสวน) สภ.หลังสวน ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิตอยู่ภายในสวนทุเรียน หลังบ้านเลขที่ 222 หมู่ 18 ต.บ้านควน อ.หลังสวน จ.ชุมพร จึงแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ฉลาด พลนาการ ผกก.สภ.หลังสวน ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.ชุมพร ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.หลังสวน และหน่วยกู้ชีพกู้ภัย สมาคมพุทธประทีป อ.หลังสวน จ.ชุมพร ทราบชื่อภายหลังคือ นายประสิทธิ์ ลิ่มภัทรพงศ์ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 222 หมู่ที่ 18 ต.บ้านควน อ.หลังสวน จ.ชุมพร สภาพถูกอาวุธปืนยิงเข้าบริเวณหน้าอก และหน้าท้อง จำนวน 4 นัด นอนหงายอยู่กลางสวนทุเรียนหลังบ้านของผู้ตาย
จากการสอบถาม นางชลิตา ลิ่มภัทรพงศ์ อายุ 58 ปี ภรรยาของผู้ตาย ทราบว่า ตนเองทำงานอยู่ภายในบ้าน ส่วนนายประสิทธิ์ ผู้ตายได้เข้าไปในสวนหลังบ้าน ซึ่งมีอยู่ประมาณ 40 ไร่ ซึ่งเป็นสวนยาง สวนปาล์ม และสวนทุเรียน 10 ไร่ โดยสามีชอบพกอาวุธปืนสั้นเข้าไปในสวนเป็นประจำ และวันเกิดเหตุสามีพกอาวุธปืนเข้าไปในสวน ตนเองได้ยินเสียงไม่ได้แปลกใจอะไรถือเป็นปกติ จนกระทั่งช่วงเย็นได้เดินเข้าไปตามเพราะเห็นสามีหายไปนานเกิน ได้พบนายประสิทธิ์ สามีถูกยิงนอนเสียชีวิตอยู่กลางสวนทุเรียนแล้ว จึงได้แจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว
ขณะเดียวกัน ทางตำรวจได้สอบสวนพยานแวดล้อม ทราบว่าผู้ตายมักจะชอบยิงปืนบ่อยครั้ง จนชาวบ้านใกล้เคียงรู้สึกหวาดผวาและเกรงกระสุนจะตกมาใส่ได้รับอันตราย นอกจากนั้น ผู้ตายมักมีปากเสียงทะเลาะกับลูกสาวชนิดเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด และช่วงเกิดเหตุลูกสาวมาหาผู้ตาย หลังเกิดเหตุได้หายตัวไป
ความคืบหน้าเมื่อกลางดึกวันที่ 24 ก.ค.66 ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ธีรนันท์ ชุมวรฐายี รอง ผกก.ส.ส.สภ.หลังสวน ได้นำตัว น.ส.จุฑาพร ลิ่มภัทรพงศ์ อายุ 35 ปี ลูกสาวผู้ตาย ขณะพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์ในย่านหรูกลางตัวเมืองชุมพร พร้อมรถเก๋งสปอร์ต BMW รุ่น Z4 S Drive 30 i ที่ขับไปหาพ่อช่วงเกิดเหตุ มาให้พนักงานสอบปากคำ โดยมี นางชลิตา ลิ่มภัทรพงศ์ อายุ 58 ปี ผู้เป็นแม่มาร่วมอยู่เป็นเพื่อนด้วย จากการสอบปากคำ น.ส.จุฑาพร จนกระทั่งเวลา 12.00 น.วันเดียวกัน ไม่ยอมปริปากพูดใดๆ ทั้งสิ้น อ้างเพียงว่าจะไปให้การในชั้นศาลอย่างเดียว
ต่อมา น.ส.จุฑาพร และนางชลิตา ผู้เป็นแม่ออกจากห้องสอบสวนมาพบญาติที่มาเยี่ยมและทำธุระส่วนตัว ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถาม น.ส.จุฑาพร ถึงกรณีที่เกิดขึ้น น.ส.จุฑาพรได้ส่ายหน้าพร้อมกับบอกว่าไม่มีอะไรจะพูดแล้วรีบเดินเข้าห้องสอบสวน
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามนางชลิตา ผู้เป็นแม่บอกว่าก่อนเกิดเหตุลูกสาวได้ขับรถเก๋งมาที่บ้านเกือบบ่าย 2 โมง ส่วนตนอยู่ในบ้านไม่เห็นเหตุการณ์ใด ระหว่างผู้สื่อข่าวสอบถามนางชลิตา ปรากฏว่า น.ส.จุฑาพร ได้ย้อนออกมาเรียกผู้เป็นแม่ให้เข้าไปในห้องสอบสวนทันที
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ชุมพร ได้เดินทางมาเก็บลายนิ้วมือแฝงภายในรถเก๋งสปอร์ต BMW รุ่น Z4 S Drive 30 i ที่ตำรวจตรวจยึดไว้ที่ สภ.หลังสวน เพื่อประกอบสำนวนคดี
จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนทราบว่า น.ส.จุฑาพร เป็นคนไม่พูดและไม่สุงสิงกับใคร ที่ผ่านมาไม่ค่อยได้อยู่บ้านเนื่องจากไปประกอบธุรกิจทำร้านอาหารอยู่ใน อ.ปะทิว จ.ชุมพร แต่ไม่ประสบความสำเร็จต้องปิดกิจการไป โดยเช่าอพาร์ตเมนต์หรูอยู่ในย่านกลางเมืองชุมพร ชอบทำตัวเป็นไฮโซ และได้เช่ารถเก๋งสปอร์ต BMW รุ่น Z4 S Drive 30 i มาใช้เสียค่าเช่าวันละ 1 หมื่นบาท จ่ายเป็นรายสัปดาห์ๆ ละ 7 หมื่นบาท โดยเช่ามานานหลายเดือนแล้ว ที่ผ่านมาชอบไปขอเงินจากแม่มาใช้เป็นประจำ และมักจะมีปากเสียงกับผู้เป็นพ่อบ่อยครั้งที่ลูกสาวชอบมาขอเงิน จนกลายเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอดที่ลูกสาวกลับบ้าน กระทั่งวันเกิดเหตุ น.ส.จุฑาพร ขับรถเก๋งกลับมาที่บ้านช่วงบ่าย หลังเกิดเหตุพบศพนายประสิทธิ์ ถูกยิงตายอยู่ในสวนทุเรียนหลังบ้านดังกล่าว
ต่อมา ได้มีพนักงานบริษัทเช่ารถเดินทางมาที่ สภ.หลังสวน เพื่อมาติดตามขอนำรถเก๋ง BMW ที่ น.ส.จุฑาพร ได้เช่ามาใช้ เนื่องจากครบกำหนดเป็นวันสุดท้ายของการเช่าในวันนี้ โดยพนักงานบริษัทได้ให้ข้อมูลว่า ผู้เช่าได้เช่ารถมานานแล้ว และจะเช่าเป็นรายสัปดาห์ โดยลูกค้ารายนี้เป็นลูกค้าชั้นดี ไม่ติดค้างเงินค่าเช่าเลย ซึ่งจะจ่ายเป็นรอบๆ ละ 7 หมื่นบาทต่อสัปดาห์ และลูกค้ารายนี้เช่าคันนี้มาอย่างต่อเนื่อง มาเป็นเวลานานหลายเดือนแล้ว ทางบริษัทจึงได้เดินทางมาชี้แจงและจะขอนำรถกลับต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.ฉลาด พลนาการ ผกก.สภ.หลังสวน เปิดเผยว่า เบื้องต้นแม้ผู้ต้องสงสัยจะไม่พูดอะไร จากการสืบสวนพบว่า น.ส.จุฑาพร ขับรถออกมาจากอพาร์ตเมนต์ในตัวเมืองชุมพร กลับมาที่บ้านใน อ.หลังสวน เพียงคนเดียว จากการรวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้น เชื่อว่า น.ส.จุฑาพร น่าจะมีปากเสียงกับผู้เป็นพ่อ แล้วเกิดแย่งปืนกันขึ้นและแย่งปืนมาได้แล้วยิงใส่กลางหน้าอก 2 นัด หน้าท้อง 1 นัด และหน้าขาขวากระสุนทะลุใต้เข่า 1 นัด ก่อนหลบหนีไป
พ.ต.อ.ฉลาด เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้ตรวจยึดเสื้อผ้า น.ส.จุฑาพร และของผู้ตาย รวมทั้งอาวุธปืน ส่งไปกองพิสูจน์หลักฐานภาค 8 เพื่อตรวจเก็บดีเอ็นเอ และลายนิ้วมือแฝง ซึ่งจะรู้ผลเร็วๆ นี้ ส่วนเบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา น.ส.จุฑาพร ฐานกระทำฆ่าบุพการีตายโดยเจตนา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลา 15.00 น. ภายหลังสอบปากคำเสร็จตำรวจได้คุมตัว น.ส.จุฑาพร ไปขออำนาจศาลจังหวัดหลังสวน ฝากขังต่อไป ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม น.ส.จุฑาพร ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ น.ส.จุฑาพร ไม่พูดอะไรทั้งสิ้น เดินขึ้นรถตำรวจแบบเงียบเฉยไม่สนใจเสียงที่ผู้สื่อข่าวถามแต่อย่างใด