เชียงใหม่ - พ่อแม่ของผู้ต้องหาฆ่าชิงรถเอาไปชิงทองบนห้างดังเชียงใหม่ หิ้วข้าวเหนียวไก่ทอดขึ้นโรงพักขอเยี่ยมลูกชายที่ถูกสอบปากคำ เผยรู้สึกเสียใจและขอโทษที่ลูกชายก่อเหตุ ยอมรับลูกติดเกมจริง แต่ปกติเป็นคนเงียบไม่ค่อยพูด ห่วงทำร้ายตัวเองระหว่างถูกควบคุม พร้อมเผยครอบครัวเคยถูกหลอกลงทุนเทรดทองทำสูญเงิน 10 ล้านบาทจริง ทั้งๆ ที่ลูกชายเตือนแล้ว ไม่แน่เป็นแรงจูงใจหรือไม่
ความคืบหน้าคดีที่วานนี้ (8 ก.ค. 67) คนร้ายก่อเหตุฆ่าคนขับรถผ่านแอปพลิเคชันทิ้งศพไว้บนดอยสุเทพ แล้วชิงรถนำไปใช้ก่อเหตุชิงทองบนห้างสรรพสินค้ากลางเมืองเชียงใหม่และย้อนกลับเอารถไปจอดทิ้งไว้ในป่าข้างทางขึ้นดอยสุเทพ แล้วหลบหนีนำทองไปตระเวนขาย แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ในบ้านพักพื้นที่อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ทราบชื่อคือนายนิพิฐพนธ์ สมบูรณ์สุขยิ่ง อายุ 26 ปี พร้อมของกลางทองคำที่ชิงมาได้ และอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ จากนั้นคุมตัวไปสอบสวนและชี้จุดก่อเหตุ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าคนร้ายมีการวางแผนก่อเหตุเป็นอย่างดี โดยซึมซับมาจากการที่เป็นคนติดเกม โดยเฉพาะเกมวางแผนและใช้ความรุนแรง
ช่วงเช้าวันนี้ (9 ก.ค. 67) ที่สถานีตำรวจภูธรแม่ปิง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ทางพ่อและแม่ของนายนิพิฐพนธ์ ได้เดินทางขอเข้าเยี่ยมลูกชายที่ถูกควบคุมตัวมาสอบปากคำในคดีชิงทอง โดยพ่อแม่นำอาหารเป็นข้าวเหนียวไก่ทอดมาฝาก แต่เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่อนุญาตให้เข้าพบ ทั้งนี้ แม่ของผู้ต้องหาเปิดเผยว่า รู้สึกเสียใจและขอโทษที่ลูกชายก่อเหตุดังกล่าว โดยยืนยันว่าไม่ทราบและไม่มีวี่แววมาก่อนว่าลูกชายจะก่อเหตุ แต่ยอมรับว่าลูกชา มีพฤติกรรมหมกมุ่นและติดเกมจริงๆ โดยเฉพาะเกมวางแผนและต่อสู้ใช้ความรุนแรง รวมทั้งชอบดูหนังแนวเดียวกันนี้ด้วยมาตั้งแต่เด็กแล้ว ซึ่งได้พยายามห้ามปรามตักเตือนอยู่ตลอด แต่ไม่เป็นผล ขณะที่ตามปกติแล้วลูกชายเป็นคนสุภาพเรียบร้อยและไม่ค่อยพูด จึงไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะก่อเหตุเช่นนี้ ซึ่งเมื่อทราบว่าตำรวจเข้ามาจับกุมตัวที่บ้าน ยังตกใจมาก เพราะหลังก่อเหตุแล้วลูกชายได้กลับมาอยู่ที่บ้านและทำตัวเป็นปกติทุกอย่าง ทั้งนี้เป็นห่วงลูกชายว่าอาจจะทำร้ายตัวเองในระหว่างที่ถูกคุมขัง
สำหรับที่มีการระบุว่าลูกชายก่อเหตุเพราะทางบ้านมีปัญหาทางการเงินเพราะถูกหลอกให้ร่วมลงทุนทองสูญเสียเงินจำนวนมากนั้น แม่ยอมรับว่าทางบ้านมีปัญหาการเงินจากการถูกหลอกให้ร่วมลงทุนจริง โดยเมื่อประมาณ 4-5 ปีที่แล้วทางบ้านได้นำเงินที่มีไปลงทุนเทรดทองกับผู้ก่อเหตุที่ตกเป็นข่าวใหญ่และถูกหลอกไปเป็นเงินกว่า 10 ล้านบาท ทำให้ทางบ้านเผชิญปัญหาทางการเงินอย่างหนัก ซึ่งก่อนหน้านั้นลูกชายเคยเตือนแล้วแต่พ่อแม่ไม่เชื่อ ซึ่งอาจเป็นไปได้ที่ลูกชายก่อเหตุเพราะหวังจะนำเงินมาช่วยเหลือครอบครัว แต่ยืนยันว่าทางบ้านไม่รู้เรื่องระแคะระคายแม้แต่น้อย และถึงจะมีปัญหาเรื่องถูกโกงเงิน แต่ทางบ้านยังใช้ชีวิตอยู่ได้ เพียงแต่ว่าอาจจะไม่สุขสบายเหมือนเมื่อก่อนเท่านั้น โดยลูกชายไม่ได้ทำงานอะไร แต่ทำหน้าที่คอยดูแลแม่และแม่ให้เงินเดือนราวเดือนละ 15,000-20,000 บาท ซึ่งถือว่าไม่น้อย ส่วนความผิดที่ลูกก่อเหตุนั้น ยอมรับว่าเป็นห่วงลูก เพราะในสายตาแม่แล้ว ลูกเป็นเด็กและเป็นคนดีเสมอ แต่ก็ไม่ได้ปกป้องว่าลูกไม่ผิด และบอกกับลูกแล้วให้พูดความจริงทั้งหมดเพื่อโทษหนักจะได้เป็นเบา รวมทั้งขอแสดงความเสียใจและขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างสูงและจากใจด้วย โดยทางครอบครัวจะไปกราบขอขมาแทนลูกชายอย่างแน่นอน