เชียงใหม่ - คืบเหตุคนร้ายบุกชิงทองบนห้างดังกลางเมืองเชียงใหม่ ได้ทองไปรวมน้ำหนักประมาณ 70 บาทมูลค่าราว 3 ล้านบาท ล่าสุดพบรถยนต์ที่ใช้หลบหนีถูกทิ้งไว้ในป่าข้างทางขึ้นดอยสุเทพ ตรวจสอบเจอรอยเลือดสดจำนวนมาก ระดมเจ้าหน้าที่เร่งไล่ล่า คาดใช้เส้นทางป่าหลบหนีและอาจมีผู้ร่วมก่อเหตุมากกว่า 1 คน
ความคืบหน้ากรณีเมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. วันนี้ (8 ก.ค. 67) คนร้ายเป็นผู้ชายก่อเหตุชิงทองคำจากร้านในห้างเซ็นทรัลเฟสติวัลเชียงใหม่ ได้ทองคำรวมน้ำหนักประมาณ 70 บาท มูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท โดยใช้เวลาลงมือก่อเหตุเพียงประมาณ 1 นาที 30 วินาที จากนั้นใช้รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน กร 1173 จันทบุรี ขับหลบหนีออกจากห้างไปตามถนนซูเปอร์ไฮเวย์มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองเชียงใหม่นั้น รายงานข่าวแจ้งว่าช่วงบ่ายวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่าพบรถยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุถูกจอดทิ้งไว้อยู่ข้างทางเส้นทางขึ้นสู่ดอยสุเทพ ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จึงประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบและเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์
เบื้องต้นพบหลักฐานหลายอย่างที่อยู่ภายในรถ ทั้งรอยเลือดจำนวนมาก ถุงพลาสติก และเอกสาร ซึ่งรอยเลือดที่พบยังเป็นรอยเลือดใหม่ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่พร้อมสุนัขตำรวจยังได้ติดตามแกะรอยเส้นทางเข้าป่าที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนีด้วย เนื่องจากมีรายงานข้อมูลเบื้องต้นว่าผู้ต้องสงสัยชื่นชอบการวิ่งเทรลและปั่นจักรยาน ซึ่งมีการใช้เส้นทางในพื้นที่ดอยสุเทพเป็นประจำ จึงอาจจะมีความชำนาญเส้นทางในการหลบหนี
ทั้งนี้ พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า จากหลักฐานที่ตรวจพบในรถนั้นทำให้เชื่อว่าคนร้ายน่าจะมีผู้ร่วมก่อเหตุมากกว่า 1 คน สำหรับรอยเลือดจำนวนมากอาจจะมาจากการยิงกันด้วยอาวุธปืน ส่วนจะเป็นใครยิงใครหรือเป็นการชิงทรัพย์รถยนต์เพื่อนำไปใช้ก่อเหตุหรือไม่นั้น จะต้องทำการสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียดต่อไป
ขณะที่ช่วงค่ำวันนี้ ชุดทำงานทั้งส่วนของตำรวจสืบสวนภาค 5 ตำรวจภูธรเชียงใหม่ และ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ได้ประชุมวางแผนเพื่อติดตามจับกุมคนร้าย โดยได้มีการเชิญตัวแทนอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย เข้าร่วมทำงานด้วย เนื่องจากยังเชื่อว่าคนร้ายอาจจะใช้เส้นทางป่าเขาในเขตอุทยานในการหลบหนี ขณะเดียวกันจะต้องมีการติดตามแกะรอยจากกล้องวงจรปิดเส้นทางขึ้นลงดอยสุเทพในช่วงดังกล่าวด้วย เผื่อคนร้ายนำรถมาจอดไว้เพื่ออำพรางการหลบหนี ทั้งนี้ ประชาชนสามารถร่วมกันแจ้งเบาะแสได้ โดยมีความเป็นไปได้ว่าหนึ่งในคนร้ายนั้นอาจจะบาดเจ็บและเสียเลือดอยู่
