xs
xsm
sm
md
lg

(คลิป) ต้องร้องถึงผู้บังคับบัญชา! ญาติตบเท้าขึ้นโรงพักจี้คดีหนุ่มลำปางโดนพี่เพื่อนเตะจนตาย เรื่องไม่คืบ-พงส.อ้างงานเยอะ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ลำปาง - ญาติ-พยานตบเท้าขึ้นโรงพักตามจี้คดีหนุ่มลำปางโดนพี่ชายเพื่อนเตะจนตาย ผ่านมาเป็นเดือนเรื่องไม่คืบ เจอ ตร.เจ้าของคดีอ้างงานเยอะ จนต้องร้องถึงผู้บังคับบัญชา สุดท้ายยอมทำคดีต่อสอบปากคำจนเสร็จพร้อมออกหมายเรียกตัวผู้ก่อเหตุวันนี้ ขณะที่แม่ถูกพระนอกรีตขอเป็นเจ้าภาพงานศพแต่สุดท้ายหายตัว



นางวรันณ์ธร บุญนำมา ผู้เป็นแม่ นางรวงทอง ใจกล้า ภรรยา และน้องข้าวหอม ลูกสาว อายุ 12 ปี ของนายบรรธนาชัย ใจกล้า หรือโย อายุ 39 ปี ผู้เสียชีวิต พร้อมด้วยพยาน ซึ่งเป็นเพื่อนของผู้ตายและน้องชายของผู้ที่ทำร้ายนายโยจนถึงแก่ความตาย ได้เดินทางไปที่ สภ.เมืองลำปางเมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา

เพื่อนำพยานเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมและขอทราบความคืบหน้าของคดี นายบรรธนาชัย ใจกล้า หรือโย ถูกพี่ชายเพื่อนเตะจนตาย และนางรวงทองได้เข้าแจ้งความไว้ เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 67 แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้เดินทางพบพนักงานสอบสวน ให้ปากคำ และพยายามโทรศัพท์เพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดี แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ เนื่องจากพนักงานสอบสวนไม่รับโทรศัพท์ อ่านไลน์แต่ไม่ตอบข้อความ มาพบก็ไม่เจอ ทำให้ญาติทุกคนกังวลใจเกี่ยวกับคดีเนื่องจากเวลาผ่านมาเกือบ 1 เดือนแล้ว

ครั้งนี้เมื่อมาถึงก็ต้องนั่งรอพนักงานสอบสวนเกือบครึ่งวันโดยไม่ได้คำตอบใด เพราะยุ่งกับคดีจราจร และเมื่อญาติรอไม่ไหวจึงเข้าไปในห้องเพื่อจะบอกว่า..วันนี้ได้พาพยานมาพร้อมแล้วเพื่อมาให้ปากคำเพิ่มเติม แต่ก็ไม่ทันพูดอะไร พนักงานสอบสวนกลับอารมณ์เสีย ต่อว่านางรวงทองและญาติที่เข้าไปในห้องและบอกว่าจะเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนไม่ทำแล้วเพราะงานก็เยอะเดี๋ยวจะให้ไปพบกับรอง ผกก.แทน

ซึ่งทำให้ทุกคนถึงกับงง เพราะการเดินทางมาโรงพักครั้งนี้ต้องการมาถามความคืบหน้าและนำพยานมาให้ปากคำแต่กลับถูกทำเหมือนไม่มีตัวตน ไม่มีการอธิบายกับญาติผู้ตายใดๆ ทั้งสิ้น และเรียกให้ทนายออกจากห้องเพื่อให้ไปคุยกันบนห้องรอง ผกก.

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้รายงานพฤติกรรมดังกล่าวให้ผู้บังคับบัญชาทราบว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง การที่ชาวบ้านมาพบพนักงานสอบสวนเพราะร้อนใจ กังวลใจ เนื่องจากครอบครัวสูญเสีย แต่กลับได้รับการปฏิบัติแบบไม่แยแส ไม่ใส่ใจ ไม่มีความเป็นมิตรหรืออธิบายใดๆ ให้ชาวบ้านเข้าใจ

จากนั้นไม่ถึง 15 นาที พนักงานสอบสวนคนดังกล่าวได้เดินลงมาจากชั้นสอง และเรียกให้ญาตินำพยาน 3 ปาก ซึ่งประกอบด้วย แม่ของผู้ตาย เพื่อนของผู้ตายซึ่งเป็นน้องชายของผู้ก่อเหตุ และเพื่อนของผู้ตายอีก 1 คน เข้าไปให้ปากคำพร้อมทำหน้าที่ต่อจนเสร็จ ในเวลา 16.30 น. (2 ก.ค.)

จากนั้นพนักงานสอบสวนได้เดินทางไปที่บ้านของผู้ก่อเหตุเพื่อค้นหาวัตถุพยานบางอย่าง และวันนี้ (3 ก.ค.) จะได้สอบปากคำแพทย์ในการชันสูตรพลิกศพที่ระบุว่า..ผู้ตายเสียชีวิตเพราะถูกทำร้ายร่างกายจนเลือดออกที่ก้านสมอง

ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าว นางรวงทอง ภรรยาผู้เสียชีวิต เล่าว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 3 มิ.ย. 67 สามี (นายโย) ได้ออกจากบ้านไปดื่มเหล้าที่บ้านของนายต้อม เพื่อนสนิท ที่ชุมชนท่าคราวน้อย ซึ่งก็เป็นปกติที่มักจะไปดื่มด้วยกันเสมอ ซึ่งคืนนั้นสามีไม่ได้กลับบ้าน

กระทั่งช่วงเที่ยงของอีกวัน (4 มิ.ย.) นายต้อมได้พานายโยมาส่งที่บ้าน และตนกลับมาบ้านหลังเลิกงานในช่วงค่ำก็พบว่าสามีสภาพหน้าตาบวม ใต้ตาซ้ายแตก ปากแตกตามร่างกายช้ำ จึงได้สอบถามว่าไปโดนอะไรมา สามีบอกว่าถูกพี่ชายของนายต้อมคือ นายเอ เตะ-ต่อยจนได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ไม่คิดว่าจะรุนแรงจึงให้กินยาพาราฯ เพราะสามีไม่ไปโรงพยาบาลบอกเพียงว่าไม่เป็นอะไรมาก วันต่อมา (5 มิ.ย.) ตนก็ออกไปทำงานตามปกติ ตอนเย็นลูกสาวกลับจากโรงเรียนเห็นพ่ออ่อนแรง อาเจียน และต้องการเข้าห้องน้ำหลายครั้ง จึงพาพ่อเข้าออกห้องน้ำ 3-4 ครั้ง และพยายามถามพ่อว่าไปโรงพยาบาลไหม แต่พ่อก็ไม่ไป จนสุดท้ายพาพ่อเข้าห้องน้ำอีก แต่ครั้งนี้พ่อเงียบไปนานประมาณ 5 นาทีลูกสาวเรียกก็ไม่ตอบ จึงเข้าไปดูพ่อในห้องน้ำก็พบว่าพ่อนั่งพิงฝาไม่ได้สติ จึงเรียกย่า และรถกู้ชีพมาช่วย เมื่อมาถึงก็ปั๊มหัวใจแต่ก็ไม่ทันเพราะนายโยเสียชีวิตแล้ว

ด้านนายต้อม เพื่อนสนิทผู้ตาย ก็ยอมรับว่าตนกับโยสนิทกัน มักจะไปดื่มเหล้าที่บ้านตลอด และเวลาดื่มเหล้าแล้วโยก็จะเสียงดังหน่อย พี่ชายตนคือนายเอ ก็มักจะมาต่อว่าในเรื่องนี้หลายครั้ง และครั้งนี้ เย็นวันที่ 3 มิ.ย.นายโยก็ไปดื่มเหล้าที่บ้านตนเช่นเคย และนอนค้างที่บ้าน ตอนเช้าตนไปทำงาน เที่ยงกลับมาบ้านก็พบว่านายโยนั่งอยู่ สภาพคือโดนทำร้ายร่างกาย ซึ่งนายโยบอกว่าพี่ชายตนเป็นคนทำ ตนจึงได้พานายโยกลับไปส่งที่บ้าน ส่วนสาเหตุการตายนั้นตนเองก็เชื่อว่าเกิดจากที่พี่ชายทำร้ายร่างกายเพื่อน เพราะพี่ชายตัวสูงใหญ่มากเมื่อเทียบกับนายโยซึ่งเป็นคนตัวเล็กผอม

ขณะที่แพทย์โรงพยาบาลลำปางชันสูตรพลิกศพระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่าเลือดออกบริเวณก้านสมองเนื่องจากถูกทำร้ายร่างกาย


ขณะที่นางวรันร์ธร แม่ของผู้ตาย ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีต่อ นายเสน่ห์ ไชยวงศ์ (ตุ๊อาร์ม) โดยกล่าวหาว่า ทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2567 ซึ่งเป็นวันที่ประกอบพิธีทางศาสนา สวดพระอภิธรรมศพลูกชาย (นายโย) ที่วัดท่าคราวน้อย ได้มีพระภิกษุ 3 รูปนั่งรถยนต์เข้ามายังวัด ซึ่งพระ 2 ใน 3 รูป คือ พระครูสุวัฒนมงคล และพระเสน่ห์ ไชยวงศ์ ได้ลงจากรถยนต์คันดังกล่าว เข้ามาสอบถามสาเหตุการเสียชีวิตและวันจัดงานศพของบุตรชาย และพระภิกษุทั้งสองรูปแสดงเจตจำนงขอเป็นเจ้าภาพงานศพในคืนสุดท้าย โดยระบุสิ่งของ ปัจจัยในการถวายพระไว้ให้กับนางวรันณ์ธร เพื่อจัดเตรียมตามที่บอก ซึ่งเป็นเงินที่เพิ่มขึ้นจากปกติรวมแล้ว 22,488 บาท

แต่เมื่อเสร็จงานศพลูกชาย ตนเองได้แจ้งค่าใช้จ่ายให้ทราบก็บ่ายเบี่ยงเรื่อยมาและสุดท้ายก็ปิดช่องทางการติดต่อ สร้างความเสียหายเพิ่มเติมให้ครอบครัวเนื่องจากนางวรันณ์ธรต้องควักเงินส่วนตัวจ่ายเพิ่มทั้งๆ ที่ไม่ควรต้องจ่าย จึงร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ติดตามตัวพระภิกษุ 2 รูปนี้มาสอบสวน

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพระทั้ง 2 รูป พบว่าเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา 1 ใน 2 รูป ได้แอบสึกไปนั่งรับประทานอาหารดื่มสุราที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดลำปาง และมีพฤติกรรมที่มักจะไปแอบอ้างว่าตนเองเป็นรองเจ้าคณะฯ ในจังหวัดเชียงใหม่ มักจะไปบอกบุญตามวัดเล็กๆแถวเชียงราย ลำปาง เชียงใหม่ ซึ่งมีวัดบางแห่งถูกหลอกและได้แจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น