ศูนย์ข่าวขอนแก่น -'เริ่มแล้วเทศกาลสร้างสรรค์ประจำปีของภาคอีสาน กับ “เทศกาลอีสานสร้างสรรค์ 2567” ปีนี้โดดเด่นด้วยการต่อยอดของดีจาก 3 อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ที่โดดเด่น ทั้งงานอาร์ต อาหาร ดนตรีและภาพยนตร์ เชื่อมต่อโอกาสสู่ภาคธุรกิจก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางของ ‘Creative Festival Economy’ ในภาคอีสาน ตั้งเป้าสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA เปิด “เทศกาลอีสานสร้างสรรค์ 2567” ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ภายใต้ธีมงาน ‘สะออนเด้’ Proud of Isan ผสมอีสาน ต่อยอด เติบโต ระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน-7 กรกฎาคม 2567 โดยมีนายยุทธพร พิรุณสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นายธีระศักดิ์ ธีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ดร.อรรชกา สีบุญเรือง ประธานกรรมการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ร่วมเปิดงาน เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2567
ดร.อรรชกา สีบุญเรือง ประธานกรรมการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ กล่าวว่า ปีนี้เทศกาลฯ จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เราเริ่มเห็นทิศทางของเทศกาลฯ ในประเด็นของการเป็นพื้นที่ ‘แสดงศักยภาพ’ และ ‘โอกาสทางธุรกิจ’ อย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการใช้เครื่องมือที่เป็น Business Model ทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นในระดับภาคอุตสาหกรรรมที่โดดเด่นในสาขาด้านคอนเทนต์ ได้แก่ ภาพยนตร์และดนตรี การออกแบบ และอาหาร สำหรับด้านการออกแบบ เทศกาลฯ จัดงาน ‘Kupper Art Fes 2024’ ที่ CEA ร่วมกับ Kultx Collaborative (KULX) และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB จัดมหกรรมงานซื้อขายผลงานศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน
โดยงานนี้ได้รวบรวมเหล่าศิลปินอาร์ตทอยและอื่นๆ จากสตูดิโอกว่า 30 แห่ง ให้มาพบปะและแลกเปลี่ยนกับนักสะสมทั่วประเทศ ทางด้านดนตรี มีการจัดกิจกรรม ‘Isan Sound On Top’ ซึ่งเป็นเวทีแสดงศักยภาพทางดนตรีของศิลปินอีสาน 25 วง ที่มาพร้อมสไตล์ดนตรีร่วมสมัยหลากหลายรูปแบบ พร้อมกิจกรรม Business Matching ที่ CEA เชิญผู้จัดงานเทศกาลดนตรีระดับเอเชียจาก 6 ประเทศเข้าร่วม
ประกอบด้วย ไต้หวัน ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ และเกาหลีใต้ และ ‘Molam Idol Audition’ เวทีเฟ้นหาหมอลำดาวดวงใหม่เข้าสู่วงการบันเทิง ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง CEA, New Gen Entertainment และ Workpoint TV และทางด้านภาพยนตร์ กับกิจกรรม Isan Film Business Networking ‘Investor Talk’ ตลาดหนังมองหาอะไร? โดยเชิญนักลงทุนด้านการผลิตภาพยนตร์และแพลตฟอร์มระดับสากลมาต่อยอดธุรกิจภาพยนตร์กับคนทำหนังอีสาน นอกจากนี้ยังมีตลาด D-Kak Market ที่นำเสนอสินค้าจาก 80 แบรนด์ดีไซน์อีสาน รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ที่เปิดโอกาสให้นักสร้างสรรค์ทั่วอีสานได้แสดงศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็น ‘Isan Showcase’ จากครีเอเตอร์กว่า 40 ผลงาน และกิจกรรมจาก 16 จังหวัดในภาคอีสานและเครือข่ายต่างประเทศ จำนวน 8 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย ฮ่องกง เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ ลาว และกัมพูชา
ดร.อรรชกากล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมที่ส่งเสริมย่านสร้างสรรค์ ได้แก่ ย่านกังสดาล ที่ CEA ทำงานร่วมกับ เทศบาลนครขอนแก่น สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น (สสจ.) ในการพัฒนาผู้ประกอบการท้องถิ่นผ่านโปรแกรม ‘Made in Kungsadan’ รวมถึงยกระดับย่านรูปแบบ ‘เมืองใหม่’ ที่กำลังเติบโต ให้ ‘น่าอยู่’ มี ‘สุขภาวะ’ ที่ดี เป็นย่านอยู่อาศัยที่มีคุณภาพ รวมถึง TCDC ขอนแก่น และมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่มีการบูรณาการร่วมกัน เป็น ‘Creative Academics Place’ ทั้งกับคณะแพทยศาสตร์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ และคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ และสุดท้ายการพัฒนาย่านสร้างสรรค์แห่งใหม่ เช่น ย่านโคลัมโบ ที่อยู่ด้านหลังมหาวิทยาลัยขอนแก่น ให้เป็นชุมชนแห่งการสร้างสรรค์
“เทศกาลฯ เน้นย้ำจุดยืนการนำความคิดสร้างสรรค์ไปประยุกต์ใช้ในการทำงานกับทุกภาคส่วน เพื่อยกระดับธุรกิจและเมือง นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมซอฟต์เพาเวอร์ และการพัฒนาศักยภาพ ‘ต้นทุนมนุษย์’ อันเป็นต้นน้ำของการยกระดับเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของประเทศ โดยเทศกาลฯ ยังคงต่อยอด 3 อุตสาหกรรม คือ หัตถกรรมและการออกแบบ บันเทิง และอาหาร ต่อไป รวมถึงเชื่อมโยงกับเครือข่ายเมืองแห่งการเรียนรู้ของจังหวัดขอนแก่น และอีก 4 จังหวัดของภาคอีสาน ได้แก่ นครราชสีมา ศรีสะเกษ สุรินทร์ และอุบลราชธานี ที่จะมีการจัดตั้ง TCDC แห่งใหม่ในปี 2568” ดร.อรรชกากล่าว
ด้านนายยุทธพร พิรุณสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า เทศกาลอีสานสร้างสรรค์ เป็นงานที่มีความสำคัญต่อจังหวัดขอนแก่นและภาคอีสาน ที่จะช่วยขับเคลื่อนเปิดพื้นที่แห่งโอกาสทางธุรกิจของนักสร้างสรรค์อีสาน เพื่อสร้างประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคม ผ่านผลงานที่เก็บเกี่ยวและได้รับแรงบันดาลใจจากสินทรัพย์ทางวัฒนธรรม ‘อีสาน’ ไม่ว่าจะเป็นด้านวิถีชีวิต การแสดงและดนตรี อย่างหมอลำ ที่มีศักยภาพและสามารถเติบโตได้อย่างไม่จำกัด และอาหารอีสาน ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะในเรื่องรสชาติ และกรรมวิธีการทำ โดยในอนาคตจะผลักดันให้เป็น Future Food หรืออาหารแห่งอนาคตตามแนวโน้มอาหารและกระแสความยั่งยืนของโลก
“จังหวัดขอนแก่นรวมถึงทั้งภาคอีสานยังมีศิลปินนักสร้างสรรค์อีกมากมายที่มีผลงานน่าสนใจ เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการขยายพื้นที่ เชื่อมโยงเครือข่ายให้เกิดการซื้อขาย สร้างแรงบันดาลใจ ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ ขับเคลื่อนเมืองให้น่าอยู่ น่าอาศัย และน่าลงทุน” รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นกล่าวทิ้งท้าย