อุดรธานี - ตำรวจอุดรธานีรวบ 2 โจรไซเบอร์ชาวกาญจนบุรีปลอมเฟซบุ๊กคนมีชื่อเสียงเมืองอุดร หลอกขอรับเงินบริจาคทำบุญ ซื้อถังออกซิเจนให้โรงพยาบาลในชนบท กองบุญละ 8,999 บาท พบประวัติเคยก่อคดีมาอย่างโชกโชนและถูกดำเนินคดีมากกว่า 10 คดี
วันนี้ (24 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ต.สรรธาน อินทรจักร์ ผบก.ก.จว.อุดรธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี, พ.ต.อ.พันธุ์เพ็ชร เหล่ากำเนิดเพชร ผกก.กก.สส.ภ.1ว.อุดรธานี, พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหา “ปลอม Facebook คนดัง หลอกขอรับเงินบริจาค”
ประกอบด้วย นายวีรพงศ์ (ขอสงวนนามสกุล) หรือบาส อายุ 19 ปี พักอาศัยในพื้นที่ ต.หนองปรือ อ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 191/2567 ถง 21 มิ.ย. 67 และนายพีรพัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) หรือพี อายุ 22 ปี พักอาศัยในพื้นที่ ต.หนองปรือ อ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี ตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 192/2567 ถง 21 มิ.ย. 67
ในข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลหนึ่งบุคคลใด”
สืบเนื่องจากกองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุจากกลุ่มผู้เสียหายในเขตพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ว่ามีคนร้ายมีแผนประทุษกรรมสร้างเฟซบุ๊กปลอมเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงของจังหวัดอุดรธานี นำไปใช้หลอกขอรับเงินบริจาคจากกลุ่มเพื่อนของผู้ถูกแอบอ้างโดยอ้างว่า “สมทบทุนซื้อถังออกซิเจนให้กับโรงพยาบาลในชนบท กองบุญหรือถังละ 8,999 บาท หรือบริจาคตามกำลังศรัทธา”
ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีผู้ถูกหลอกหลงเชื่อ โอนเงินผ่านระบบอินเทอร์เน็ตแบงกิ้งไปยังบัญชีที่คนร้ายใช้รับเงิน จากนั้นได้อำพรางยอดเงินโดยโอนเงินต่อเป็นทอดๆ โดยใช้บัญชีของบุคคลอื่น ซึ่งมีผู้ที่เกี่ยวข้องถูกนำบัญชีไปใช้ก่อเหตุมากกว่า 100 บัญชี แต่จากแผนประทุษกรรมหลายๆ เหตุ พบว่ามีข้อมูลทางการสืบสวนเชื่อมโยงไปยังผู้ต้องหาทั้งสอง
จากข้อมูลตำรวจกองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอหมายจับบุคคลทั้งสองต่อศาลจังหวัดอุดรธานี และสามารถสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองได้ในเขตพื้นที่ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งขณะนั้นกำลังนั่งสร้างเฟซบุ๊กปลอม เตรียมที่จะก่อเหตุกับผู้เสียหายรายอื่นๆ
จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของกลางที่ผู้ต้องหาใช้เป็นเครื่องมือก่อเหตุ สร้างบัญชีเฟซบุ๊กปลอมเป็นบุคคลมีชื่อเสียง พบว่าผู้ต้องหาเตรียมข้อมูลของบุคคลผู้ใช้เฟซบุ๊กเพื่อจะนำไปหลอกลวงขอรับเงินบริจาคตามแผนประทุษกรรมข้างต้นมากกว่า 400 บัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กทั่วประเทศ และเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลประวัติคดีอาญาของผู้ต้องหา พบว่าเคยต้องคดีอาญาในแผนประทุษกรรมคล้ายกันและถูกดำเนินคดีมากกว่า 10 คดี
ขณะนี้อยู่ระหว่างหลบหนีศาลชั้นต้น ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองรับว่าเป็นผู้ที่ก่อเหตุตามรายละเอียดข้างต้นจริง ซึ่งได้ก่อเหตุมาแล้วกว่า 2 ปี ส่วนเงินที่ได้จากการก่อเหตุจะนำไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือยในชีวิตประจำวัน และซื้อยาเสพติด (เฮโรอีน) เพื่อเสพเองและแจกจ่ายให้กลุ่มบุคคลที่สนิทสนมกัน
จากพฤติการณ์การกระทำผิดของผู้ต้องหาทั้งสองมีความผิดฐานเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นและร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลหนึ่งบุคคลใด” มีอัตราโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ หากมีท้องที่ใดได้รับความเสียหายในแผนประทุษกรรมลักษณะเดียวกันนี้ สามารถประสานข้อมูลเพื่อใช้ประกอบการดำเนินคดีต่อกลุ่มผู้ต้องหาทั้งสอง ถือว่าเป็นภัยต่อประชาชนทั่วไปให้ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้างทั่วประเทศ ซึ่งตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานีได้รวบรวมพยานหลักฐานของบุคคลที่ถูกนำภาพมาแอบอ้างใช้ในการก่อเหตุเพื่อเป็นพยานหลักฐานในการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
