นครศรีธรรมราช - ปิดคดีเจาะตู้เอทีเอ็มฉกเงินกว่า 3.9 แสน จับช่างเชื่อมถังแตก สารภาพเหตุตัดสินใจบุกเจาะตู้เอทีเอ็มเป็นหนี้นอกระบบท่วม บริษัทไฟแนนซ์รถฟ้อง
วานนี้ (19 ส.ค.) พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สาลีรัตน์ ผู้กำกับการ สภ.ท่าศาลา นครศรีธรรมราช พ.ต.ท.นรากร เอียดช่วย รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จับกุมนายอนุชา หนูน้อย อายุ 32 ปี อยู่ ต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ตามหมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ในคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยการทำลายเครื่องป้องกันกีดกั้น เพื่อสะดวกในการได้ทรัพย์นั้นไป สืบเนื่องจากคดีคนร้ายก่อเหตุเข้าไปใช้เครื่องพ่นไฟตัดเหล็กเจาะตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย ที่หน้าโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 8 บ้านหน้าทับ ริมถนนสายท่าศาลา-นครศรีธรรมราช หมู่ 8 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา เมื่อวันที่ 16 ส.ค. มีความเสียหายอย่างหนัก ตู้ด้านหลังถูกเจาะด้วยหัวพ่นได้เงินไปถึง 397,000 บาท
เจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมภายในบ้านพร้อมด้วยของกลางเป็นเครื่องพ่นไฟพร้อมถังแก๊สและถังออกซิเจน เงินสด 216,000 บาท ส่วนที่เหลือนั้นได้ใช้จ่ายชำระหนี้สินไปแล้ว รถยนต์ที่ใช้เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ 1 คัน เป็นรถยนต์ 4 ประตูตรงกับภาพรถในกล้องวงจรปิดที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบจากบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ
ขณะที่นายอนุชา รับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริงและก่อเหตุเพียงคนเดียว สืบเนื่องจากปัญหาหนี้สินนอกระบบอย่างหนัก บริษัทไฟแนนซ์รถยนต์ฟ้องร้องดำเนินคดี ทำให้จนตรอกหาเงินมาชำระหนี้ได้ไม่ทัน จึงตัดสินใจเลือกไปก่อเหตุกับตู้เอทีเอ็มจุดดังกล่าว เนื่องจากเมื่อไม่นานได้ไปทำงานเป็นช่างเชื่อมกับพ่อที่โรงเรียนและเห็นว่าจุดที่เกิดเหตุปลอดสายตาคน กลางคืนจะเงียบจึงเข้าก่อเหตุ และยืนยันว่ามีความรู้เพียงช่างเชื่อมโลหะเท่านั้นไม่ได้มีความรู้เรื่องเครื่องเอทีเอ็มมาก่อน ส่วนเครื่องมือหัวพ่นตัดเหล็กนั้นได้ยกเอาของพ่อซึ่งเป็นช่างเชื่อมไปใช้ในการก่อเหตุ หลังจากได้เงินมาจึงเอาไปใช้หนี้ส่วนหนึ่ง แต่ยังไม่ทันจะหมดได้ถูกเจ้าหน้าที่ตามเข้าจับกุม จึงขอรับสารภาพทั้งหมด
ด้านเจ้าหน้าที่ระบุว่าหลังจากเกิดเหตุได้เร่งสืบสวนติดตามจนพบข้อมูลผู้ก่อเหตุและขอหมายจับกุมจากศาลเข้าจับกุมตัว ซึ่งพบว่าผู้ต้องหาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับธนาคารมาก่อน ไม่มีความรู้ทางเทคนิคของเครื่อง ส่วนการแจ้งเจ้าหน้าที่ล่าช้าไปกว่า 7 ชั่วโมงนั้นเป็นข้อผิดพลาดภายในของธนาคาร ซึ่งจะได้นำไปเป็นกรณีศึกษาแก้ไขปัญหา หากแจ้งเจ้าหน้าที่ได้อย่างรวดเร็วแค่ไหนจะคลี่คลายปัญหาได้เร็วขึ้น