ประจวบคีรีขันธ์ - เกิดปรากฏการณ์น้ำทะเลลงต่ำสุดในรอบปี ส่งผลให้ปะการังและสัตว์ทะเลนานาชนิดที่เกาะทะลุ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ โผล่พ้นน้ำ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติเกิดขึ้นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ไม่มีผลกระทบต่อแนวปะการังและสัตว์น้ำ
วันนี้ (23 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติน้ำทะเลลดต่ำสุด ส่งผลให้ปะการังหลากหลายชนิดโผล่พ้นน้ำ บริเวณอ่าวมุก อ่าวใหญ่ และอ่าวเทียน ที่เกาะทะลุ ต.ทรายทอง อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเรื่องนี้นายเผ่าพิพัธ เจริญพักตร์ เลขาธิการมูลนิธิฟื้นฟูทรัพยากร ทะเลสยาม กล่าวว่า น้ำทะเลได้เริ่มลดต่ำเป็นครั้งที่ 2 ในช่วงครึ่งปี 2567 จนเห็นแนวปะการังโผล่เห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งมีทั้งปะการังโขด ปะการังดอกกะหล่ำ ปะการังสมอง ปะการังเขากวาง ปะการังแผ่น ดอกไม้ทะเล เป็นพื้นที่บริเวณกว้าง รวมทั้งหอยมือเสือ หอยเม่น ปลิงทะเล หอยนมสาว เป็นต้น อีกทั้งเมื่อน้ำทะเลขึ้นมันจะปรับตัวได้และไม่ตายเนื่องจากเป็นช่วงเวลาเพียง 1 ชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้น ซึ่งสัตว์น้ำชนิดอื่นๆ เมื่อน้ำทะเลลดลงมันจะลงไปอยู่ในจุดที่น้ำทะเลลดลงไป ซึ่งถือเป็นเป็นธรรมชาติ โดยทางมูลนิธิฟื้นฟูทรัพยากรทะเลสยามมีการส่งเจ้าหน้าที่ลงไปบันทึกภาพ และเก็บรวบรวมข้อมูลเก็บไว้เป็นฐานไว้ในทุกๆ ปีที่มีการเกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติ
โดยเจ้าหน้าที่มูลนิธิซึ่งลงพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา เป็นวันเริ่มพบว่าปรากฏการณ์น้ำทะเลลดต่ำสุดเป็นระยะ แต่ช่วง 2 วันที่ผ่านมานั้นแนวปะการังโผล่เพียงนิดเดียว และน้ำจะเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเที่ยงเป็นต้นไปและเข้าสู่สภาวะปกติ
แต่วันนี้และวันพรุ่งนี้เริ่มตั้งแต่ช่วงเช้าน้ำค่อยๆ ลดลงเป็นระยะเช่นกัน และต่ำสุดเวลา 11.00 น. ในส่วนวันนี้และพรุ่งนี้จะพบเห็นปะการังชนิดต่างๆ โผล่เห็นอย่างชัดเจนเป็นพื้นที่กว้าง รวมทั้งหอยมือเสือ หอยนมสาว บางส่วนที่มีการฟอกขาวจากสภาวะอุณหภูมิน้ำที่ร้อนในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา คาดว่าจะเห็นได้อย่างชัดเจนเช่นกัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิฟื้นฟูจะได้ลงไปบันทึกภาพและเก็บรายละเอียดอีกครั้ง ซึ่งวันนี้น้ำทะเลได้เริ่มกลับขึ้นตามปกติในช่วงเวลา 12.00 น.เป็นต้นมา จนมองไม่เห็นปะการังตั้งแต่ช่วงบ่ายโมงเป็นต้นไป
ทุกปีเจ้าหน้าที่มูลนิธิฟื้นฟูทรัพยากรทะเลมีการเก็บข้อมูลการเกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ บางปีเกิดปีละ 1-2 ครั้งในช่วงเดือน มิถุนายน และกรกฎาคม ซึ่งปีนี้จะเกิดขึ้นอีกครั้งในช่วงเดือนกรกฎาคม ราววันที่ 20กรกฎาคม ตามข้อมูลตารางน้ำขึ้นน้ำลงของกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือซึ่งมีความแม่นยำ
เบื้องต้น เห็นว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงปรากฏการณ์ธรรมชาติน้ำทะเลลงต่ำเป็นระยะเวลาช่วงสั้นๆ ไม่ได้ลงต่อเนื่องตลอดทั้งวันจึงไม่มีผละกระทบต่อแนวปะการังและสัตว์น้ำแต่อย่างใด
ดังนั้น เมื่อเกิดน้ำทะเลลงสิ่งที่ต้องปฏิบัตินักท่องเที่ยวจะต้องงดเข้าไปดำน้ำ และแล่นเรือห้ามลงไปเดินเหยียบและจับสัตว์น้ำในบริเวณดังกล่าวในช่วงที่มีน้ำทะเลลงเป็นการชั่วคราว เนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลกระทบได้ แต่เมื่อน้ำทะเลกลับขึ้นสู่ปกติแล้วสามารถดำน้ำได้ตามปกติ โดยที่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวจะนำนักท่องเที่ยวไปดำน้ำที่ด้านหลังเกาะทะลุ ในช่วงที่เกิดน้ำทะเลลดต่ำช่วงนี้เท่านั้น ส่วนช่วงบ่ายๆ ไปแล้วเมื่อน้ำทะเลกลับเข้าสู่สภาวะปกติสามารถทำกิจกรรมดำน้ำได้ตามปกติ