น่าน - วิจารณ์กันเข้มข้น..ชาวน่านลุ้น ส.ว.ใหม่ ส่องประวัติผู้สมัครผ่านเข้าระดับประเทศ พบระบุอาชีพ-ประสบการณ์ไม่ตรงกลุ่มวิชาชีพ แถมอาจจงใจลงผิดกลุ่มจนต้องถามหาคุณภาพ
วงสนทนาของประชาชนเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภาเป็นไปอย่างเข้มข้น ซึ่งหลายคนเข้าไปส่องประวัติผู้ผ่านการคัดเลือกไปในรอบระดับประเทศ ทาง Smart Vote และเว็บไซต์ กกต.พบว่าหลายรายมีอาชีพไม่ตรงกับกลุ่มวิชาชีพที่สมัคร
อีกทั้งจำนวนมากที่ระบุประสบการณ์ดูไม่สอดคล้องกับบทบาทหน้าที่ของสมาชิกวุฒิสภา เช่น ระบุประสบการณ์การทำงานเพียง “กรีดยางมาเป็นระยะเวลา 10 ปี” หรือ “มีความชำนาญในการดำนา” รวมถึงการเป็น “จิตอาสาเก็บขยะเพื่อสิ่งแวดล้อม” จนเกิดคำถามว่า ประสบการณ์เหล่านี้จะสามารถทำหน้าที่ ส.ว.ได้อย่างมีประสิทธิภาพจริงหรือ มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการดำรงตำแหน่ง ส.ว.หรือไม่
นายสมชาย (ขอสงวนนามสกุล) ข้าราชการบำนาญ จ.น่าน ชี้ให้เห็นถึงจุดด้อย หลังเข้าไปส่องประวัติผู้สมัคร ส.ว.ระดับประเทศ ในสาขาอาชีพแต่ละกลุ่มที่ดูจะมั่ว และจะมีอาชีพเกษตรกรไปปะปนอยู่ในแทบทุกกลุ่ม เช่น กลุ่มสาธารณสุข ซึ่งเป็นวิชาชีพที่ค่อนข้างชัดเจนว่ามีความรู้ความสามารถด้านอะไร แต่ก็มีคนอาชีพทำนา เกษตรกรรม อยู่ร่วมด้วย นอกจากนี้ยังพบมีรายละเอียดประสบการณ์ ระบุจบ ป.4 ทำนามาตลอดชีวิต ซึ่งดูไม่ค่อยเหมาะสมกับการมาสมัครเป็น ส.ว.
นายประทีป ทรงลำยอง อดีตรองปลัดกระทรวงแรงงาน และเป็นหนึ่งในผู้สมัคร ส.ว.ตกรอบระดับอำเภอ จ.น่าน เปิดเผยว่า เป็นที่น่าสังเกตเรื่องของความรู้ความสามารถ เชี่ยวชาญ 10 ปี ของผู้สมัครหลายรายไม่ตรงกับกลุ่มวิชาชีพ
อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าหน้าที่ ส.ว.เป็นผู้ที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถค่อนข้างสูง ไม่ใช่ใครก็ได้ น่าที่จะต้องมีการคัดกรองตั้งแต่การศึกษา ความเชี่ยวชาญ 10 ปี ก็ต้องมีการเอกสาร หลักฐานยืนยันชัดเจน เพื่อให้ได้บุคคลเข้าไปทำหน้าที่ได้เหมาะสมกับตำแหน่ง และเป็นการเลือกสมาชิกวุฒิสภาด้วยความโปร่งใส-เที่ยงธรรม ได้คนที่มีความรู้ความสามารถจริงไปทำหน้าที่
ด้านนายก้องเกียรติ พิมพศักดิ์ ผู้สมัคร ส.ว.ตกรอบระดับจังหวัด จ.หนองคาย เปิดเผยว่า ตนให้ความสำคัญต่อเอกสารการสมัคร คุณสมบัติเชี่ยวชาญ 10 ปี จนต้องกลับไปที่ทำงานเดิมเพื่อขอหนังสือรับรองมาประกอบการสมัคร แต่กลับพบว่าเพื่อนผู้สมัครร่วมกลุ่ม ระบุอาชีพ จิตอาสาเก็บขยะเพื่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งมองว่าการคัดกรองวิชาชีพไม่ชัดเจน
และยังมีกลุ่ม 17 ระบุเป็นคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน จนถึงปัจจุบัน ขณะที่ระเบียบคณะกรรมการกองทุนจะดำรงวาระ 2 ปี และติดต่อกันไม่เกิน 2 ปี ตรงนี้เห็นชัดเจนว่าไม่ตรงคุณสมบัติ เชี่ยวชาญ 10 ปี หลายรายมีความรู้ความเชี่ยวชาญไม่ตรงกลุ่ม หรืออาจลงผิดกลุ่ม จึงอยากให้ กกต.ได้ตรวจสอบความรู้ความเชี่ยวชาญ 10 ปีของผู้สมัคร ซึ่งถึงแม้ว่าตนจะตกรอบ แต่ก็อยากได้บุคคลมีคุณภาพไปทำหน้าที่ ส.ว.
