จันทบุรี - ศุลกากรจันทบุรี ร่วมเจ้าหน้าที่หลายหน่วยทลายร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่ ยึดของกลางเกือบ 4,000 ชิ้น มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ขณะนายอำเภอเมืองจันทบุรี ฝากเตือนผู้ปกครองช่วยเป็นหูเป็นตาหลังพบบุหรี่ไฟฟ้ายุคใหม่ทำเลียนแบบขนม หวั่นเยาวชนหลงเชื่อเป็นของดี
เมื่อเวลา 16.00 น.วันนี้ (20 มิ.ย.) นายศศิน ปงรังษี ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรภาคที่ 1 พร้อมด้วย พล.ร.ต.อุทาน คล้ายภูผึ้ง รอง ผอ.กอ.รมน.จันทบุรี นายพงษ์ศักดิ์ ธนะวัฒนานนท์ นายด่านศุลกากรจันทบุรี นายกิตติพงษ์ กิติคุณ นายอำเภอเมืองจันทบุรี พ.ต.อ.ธราเทพ ตูพานิช รอง ผบก.ภ.จว.จันทบุรี และ พ.ต.อ.พรชัย แช่มช้อย ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 11 ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในเขตตัวเมืองจันทบุรี หลังร่วมกันวางแผนตรวจค้นสถานที่เป้าหมาย 2 แห่ง
ยึดบุรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 3,758 ชิ้น มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้าถือเป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง "กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ.2557 ลงวัน 12 ธันวาคม 2557" และเป็นสินค้าความผิดมาตรา 242 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560
ทั้งนี้ การลักลอบจำหน่ายเป็นความผิดตามมาตรา 246 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของรวมค่าอากร หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายกิตติพงษ์ กิติคุณ นายอำเภอเมืองจันทบุรี กล่าวว่า ปัจจุบันบุหรี่ไฟฟ้ามีความนิยมในกลุ่มเยาวชนตั้งแต่ชั้นประถม มัธยม จนถึงมหาวิทยาลัย ซึ่งล่าสุดมีการพัฒนารูปแบบคล้ายขนม เพื่อดึงดูดกลุ่มเยาวชน ซึ่งหากเยาวชนพบเห็นแล้วอาจหลงเชื่อว่าเป็นของดี ไม่ส่งผลร้ายต่อสุขภาพ
