อุบลราชธานี - สำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 ร่วมกับด่านศุลกากรช่องเม็ก และหน่วยสืบสวนปราบปรามประจำพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลุยตรวจค้นจับกุมบุหรี่ไฟฟ้าลักลอบนำเข้า 5,305 ชิ้น มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท
วันนี้ (22 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามนโยบายของ นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร และ นางกิจจาลักษณ์ ศรีนุชศาสตร์ รองอธิบดี รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร ให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรเข้มงวดในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อปกป้องประชาชนและเยาวชนที่อาจได้รับสารพิษจากบุหรี่ไฟฟ้า
จึงได้สั่งการให้นายชนินทร์ ศุภรินทร์ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร วางแผนนำเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและปราบปราม สำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 ร่วมกับด่านศุลกากรช่องเม็ก เข้าตรวจค้นสถานที่เป้าหมายในเขตอำเภอเมืองอุบลราชธานี จำนวน 2 แห่ง สามารถตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 5,305 ชิ้น มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท เพราะบุหรี่ไฟฟ้าถือเป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง “กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 ลงวันที่ 12 ธันวาคม 2557”
และเป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้าหรือส่งออก ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 โดยการลักลอบจำหน่ายเป็นความผิดตามมาตรา 246 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของรวมค่าอากร หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมควบคุมตัวผู้ดูแลร้านทั้ง 2 แห่งไปดำเนินคดีที่ด่านศุลกากรช่องเม็กในวันเดียวกัน
