xs
xsm
sm
md
lg

กรุงเก่าแถลงผลกวาดล้าง “ยุทธการพิทักษ์อยุธยา” กวาดล้างยาเสพติดเด็ดปีกผู้ค้ารายย่อย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




พระนครศรีอยุธยา
- กรุงเก่าแถลงผลกวาดล้าง “ยุทธการพิทักษ์อยุธยา” กวาดล้างยาเสพติดเด็ดปีกผู้ค้ารายย่อย ประกาศใครเกี่ยวข้องยาเสพติดต้องเข้าสู่กระบวนการยึดทรัพย์ทั้งหมด ไม่เว้นเจ้าหน้าที่ถ้าพบร่วมด้วยโดนหนัก


วันนี้ (12 มิ.ย.) ที่ด้านหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทหาร ตำรวจ อส. นายอำเภอ ฝ่ายปกครอง ป.ป.ส.ภาค 1 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงผลการระดมกวาดล้าง “ยุทธการพิทักษ์อยุธยา” ป้องกัน ปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด ระยะเร่งด่วน 3 เดือน (1 มิถุนายน-31 สิงหาคม 2567) โดยในวันนี้มีการปูพรมปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายยาเสพติด 36 จุด ทั้ง 16 อำเภอ ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

โดยตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2567 ถึงวันนี้ ขอหมายค้นจากศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 74 หมาย ใช้บัตร ป.ป.ส.ในการเข้าตรวจค้น จำนวน 70 ราย สามารถจับกุมผู้ต้องหา 51 ราย ผู้ต้องหา 53 คน ของกลางทั้งหมด ยาบ้า 12,692 เม็ด ยาไอซ์ 32.1 กรัม เคตามีน 68.17 กรัม อาวุธปืน จำนวน 3 กระบอก เครื่องกระสุนปืน จำนวน 85 นัด หมายจับสมคบ จำนวน 4 หมาย ยึดทรัพย์มีมูลค่ารวม 5,850,423 บาท เงินหมุนเวียนในบัญชีรวมประมาณ 50,000,000 บาท

นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาที่ทำลายสังคมไทยมาอย่างยาวนาน รัฐบาลภายใต้การบริหารงานของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ตระหนักและให้ความสำคัญ โดยได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา กำหนดให้การแก้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องดำเนินการอย่างจริงจังและเด็ดขาด ทั้งการสกัดกั้น การจับกุม ยึดทรัพย์ จัดการเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง การนำผู้เสพเข้ารับการบำบัด และการลดความรุนแรงของปัญหาจิตเวชจากยาเสพติด

วันนี้จึงบูรณาการร่วมทุกหน่วยงานช่วยกันทำให้ยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลดระดับความรุนแรงลง จัดการผู้ค้ารายย่อย ปิดล้อมตรวจค้น จับกุมบุคคลตามหมายจับ ยึด อายัดทรัพย์สินผู้ค้า และบำบัดบุคคลที่ติดยาเสพติดให้สำเร็จไปด้วยกันตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ทั้งนี้ ในการขับเคลื่อนภารกิจให้บรรลุเป้าหมาย หน่วยงานและภาคส่วนต่างๆ ในพื้นที่จะต้องประสาน สนับสนุนและบูรณาการการทำงานร่วมกัน

ด้าน พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เน้นย้ำขอฝากเตือนทั้งผู้ค้ายารายใหญ่ ถ้ายังมาวุ่นวายจังหวัดพระนครศรีอยุธยายังไม่เลิกอาชีพค้าขายยา ท่านจะต้องติดคุกหรือเกิดการสูญเสีย ไม่ว่าญาติพี่น้อง หรือทรัพย์สินยึดทั้งหมด ส่วนผู้ค้ารายย่อยต้องติดคุก ผู้เสพเรามี รพ.สต.ศูนย์บำบัดให้เข้าไปรับการบำบัด ส่วนเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวยาเสพติด เข้าไปรับผลประโยชน์ส่วนใดส่วนหนึ่งของยาเสพติด ถ้าเราพบเส้นทางเงินหรืออะไรกจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด










กำลังโหลดความคิดเห็น