MGR Online - ป.ป.ส. ผนึก นครบาล กองบัญชาการกองทัพไทย ปิดล้อม 21 เป้าหมาย จับกุม 11 ราย ผู้ต้องหาเครือข่ายยานรกส่งจำหน่ายในชุมชน ย่านฝั่งธนบุรี กรุงเทพฯ ยึดทรัพย์ 141 รายการ มูลค่า 25 ล.
วันนี้ (19 มิ.ย.) เวลา 10.00 น. บริเวณภายในซอยสุขสวัสดิ์ 1 ถนนสุขสวัสดิ์ แขวงบางปะกอก เขตราชบูรณะ กรุงเทพฯ นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผบก.น.8, พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ สว่างงาม รอง ผบก.น.8, พ.ต.อ.ธีระชัย เด็ดขาด รอง ผบก.น.9 และผู้แทนกองบัญชาการกองทัพไทย ร่วมแถลงผลการปิดล้อมจับกุมเครือข่ายรายสำคัญในพื้นที่แพร่ระบาดยาเสพติด ย่านฝั่งธนบุรี กรุงเทพฯ
นายวิชัย กล่าวว่า การปิดล้อมครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 ก.ย. 65 ได้มีการจับกุมผู้ต้องหาในพื้นที่ สน. ตลาดพลู ของกลางยาบ้า 60,200 เม็ด ไอซ์ 96 กรัม ซึ่งการบูรณาการสืบสวนระหว่าง ป.ป.ส. และกองบัญชาการตำรวจนครบาล ทำให้ขยายผลถึงเครือข่ายดังกล่าวลงมาในระดับผู้ค้าที่ลักลอบจำหน่ายให้กับลูกค้าในชุมชน กว่า 100 ราย และมีบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด มากกว่า 250 บัญชี มีเงินหมุนเวียนกว่า 40 ล้านบาท จึงรวบรวมหลักฐานออกหมายจับตัวการและนักค้ายา จากศาลอาญาธนบุรี ได้ 39 หมาย ในข้อหา “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด” นำมาสู่การวางแผนปิดล้อมตรวจค้นในวันนี้ 21 จุด จับกุมผู้ต้องหา 11 คน
นายวิชัย กล่าวต่อว่า หนึ่งในนั้น คือ นายนราธิป นาคทอง พร้อมของกลาง ยาอี 120 เม็ด คีตามีน 25 กรัม พร้อมเครื่องชั่ง และกล่องหมากฝรั่งติดแม่เหล็กดัดแปลงเพื่อใช้ซุกซ่อนยาเสพติดส่งตามสถานที่ต่างๆ เพื่อหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่ โดยจับกุมได้คาบ้านพักซอยสุขสวัสดิ์ 1 แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ จากการตรวจสอบประวัติไม่เคยต้องโทษคดียาเสพติดมาก่อน เบื้องต้นยึดทรัพย์สินในเครือข่ายนี้ เป็นบัญชีสมุดเงินฝาก บ้านพร้อมที่ดิน รถยนต์ รถจักรยานยนต์ พระเครื่อง ทองรูปพรรณและทรัพย์สินอื่นๆ จำนวน 141 รายการ มูลค่า 25 ล้านบาท
“จากข้อมูลพบว่าเครือข่ายดังกล่าวที่เป็นระดับผู้ค้าส่งในพื้นที่เริ่มมี มาตั้งแต่ปี 2564 และยังมีการลักลอบจำหน่ายไปยังพื้นที่เขตปริมณฑล รวมถึง จ.นครสวรรค์ ที่ล่าสุดจับกุมพร้อมของกลาง 40,000 เม็ด อย่างไรก็ตาม ส่วนระดับผู้สั่งการได้หลบหนีออกนอกพื้นที่ไปแล้ว เร่งติดตามขยายผล”
นายวิชัย กล่าวอีกว่า การปิดล้อมครั้งนี้มีจุดเริ่มต้นจากการจับกุมผู้ต้องหาเพียง 1 ราย และพบข้อมูลความเชื่อมโยงกับผู้ค้ารายย่อยและลูกค้าจำนวนมาก ทำให้สามารถออกหมายจับได้ 39 เป้าหมาย ซึ่งเป็นแนวทางในการปราบปรามยาเสพติดแนวใหม่ ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด ที่สามารถขยายผลถึงผู้มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดแม้ว่าผู้นั้นไม่เกี่ยวข้องกับตัวยาเสพติด เช่น เป็นผู้ดูแลธุรกรรมทางการเงิน โดยในเครือข่ายนี้ พบการใช้บัญชีม้าในการกระทำผิด ซึ่งขอฝากถึงประชาชนว่าการรับจ้างเปิดบัญชี หรือให้ยืมบัญชี มีโทษตามประมวลกฎหมายยาเสพติดมาตรา 129 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวเสริมว่า สำนักงาน ป.ป.ส. มุ่งเน้นการปราบปรามกลุ่มนักค้ายาเสพติดในหมู่บ้านชุมชน ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน รวมทั้งกลุ่มเครือข่ายนักค้ายาเสพติดตามแนวชายแดนที่ลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ตอนใน พร้อมดำเนินการตามข้อร้องเรียนของประชาชน ผ่านสายด่วน ป.ป.ส. 1386 โดยผู้แจ้งเบาะแสไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลผู้แจ้ง ปลอดภัยแน่นอน