xs
xsm
sm
md
lg

จนท.ต้องมุดกำแพงสอบชาวชุมชนกลางลำปางโดนเจ้าของที่ดินข้างเคียงปิดทางเข้าออก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ลำปาง - เจ้าหน้าที่ สนง.ยุติธรรมฯ มุดกำแพงสอบข้อเท็จจริง..ชาวชุมชนกลางลำปางถูกเอกชนเจ้าของที่ข้างเคียงปิดทางเข้าออก ผู้เฒ่าผู้แก่-ผู้ป่วยต้องเจาะกำแพงมุดรั้วเดือดร้อนหนัก เบื้องต้นเข้าข่ายให้ความช่วยเหลือ ขณะที่อัยการสรุปผลสอบที่ดิน-เทศบาล ส่งอธิบดีอัยการภาค 5 แล้ว


วันนี้ (5 มิ.ย.) นายพนมศักดิ์ ทิพย์นวล พนักงานคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ นางสาวพิมพ์ภา คำลือปลูก นิติกร สำนักงานยุติธรรมจังหวัดลำปาง ได้ลงพื้นที่ชุมชนหนองสง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครลำปาง และกำลังเดือดร้อนกรณีถูกเอกชนรายหนึ่งที่เข้ามาซื้อที่ข้างเคียงและทำการก่อกำแพงปิดทางเข้าออกของชาวบ้าน ซึ่งเป็นทางสาธารณะที่ชาวบ้านใช้สัญจรเข้าออกมากว่า 100 ปี ผู้เฒ่าผู้แก่ ผู้ป่วยติดเตียงก็ต้องมุดรั้วเข้าออกอย่างน่าเวทนา เพื่อเก็บข้อมูลทั้งหมดจากชาวบ้านชุมชนหนองสงและตรวจสอบพื้นที่จริง โดยมีชาวบ้านในชุมชนรวมถึงลูกหลานที่เคยอยู่อาศัยในชุมชนแห่งนี้มาก่อนเข้าให้ข้อมูลพร้อมนำเอกสารหลักฐานต่างๆ มามอบแก่เจ้าหน้าที่

หนึ่งในลูกหลานที่เคยอยู่อาศัยในชุมชนแห่งนี้ตั้งแต่สมัยปู่เล่าว่า เดิมบริเวณชุมชนเป็นทุ่งนาและหนองน้ำ มีเพียงคนในชุมชนเท่านั้นที่อาศัยอยู่ ปู่เคยเล่าให้ฟังว่าทางที่ใช้เดินเข้าออกเดิมเป็นทางรถม้าวิ่ง นั่นก็หมายความว่ารถม้ามีมากว่า 100 ปีแล้ว เนื่องจากสมัยก่อนมีถนนเพียงเส้นเดียวซึ่งก็คือถนนพหลโยธินที่เข้าออกชุมชนซึ่งกำลังเป็นข้อพิพาทอยู่ในขณะนี้ ส่วนถนนดวงรัตน์มาสร้างภายหลัง ชาวบ้านจึงเข้าออกชุมชนทางถนนพหลโยธินเป็นหลักมาโดยตลอดไม่เคยมีปัญหาใดๆ ตนเองก็ยังเคยเข็นรถเข็นขายโรตี ไส้ปิ้ง ออกไปขายของที่ถนนก็ผ่านทางตรงนี้


ส่วนที่กำลังเกิดข้อพิพาทขึ้นนี้ ชาวชุมชนต้องการเพียงแค่อยากได้ทางสาธารณะของชาวบ้านคืนเท่านั้นไม่ได้จะไปเอาชนะเจ้าของที่ดินซึ่งก็ไม่รู้ว่าได้มาในช่วงไหน แต่พื้นที่ตรงนี้เป็นทางสาธารณะจริงๆ บางคนบอกว่าชาวบ้านบุกรุก อยากบอกว่าชาวบ้านไม่ได้บุกรุก อยากรู้เหมือนกันว่าบุกรุกแบบไหน แต่จุดนี้คือทางสาธารณะเดิมและยิ่งรู้ว่าคู่กรณีเป็นหมอด้วยก็อยากให้มีจรรยาบรรณหน่อย ไม่ได้ว่าไม่ดี แต่อยากเตือนว่าอะไรที่ให้ชาวบ้านได้ก็ควรให้

ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดลำปางได้กล่าวภายหลังตรวจสอบพื้นที่แล้วว่า ลงพื้นที่ในวันนี้เนื่องจากได้รับหนังสือจากสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติให้เข้ามาช่วยเหลือตามภารกิจหน้าที่ จึงได้ลงมาดูว่าความเดือดร้อนขณะนี้เกิดจากสาเหตุใด

ภารกิจแล้วจะมีอยู่ 2 เรื่อง คือ 1. การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ในกรณีที่เป็นข้อพิพาทระหว่างเอกชนกับเอกชน แต่ทั้งนี้ต้องด้วยความสมัครใจทั้งสองฝ่าย ซึ่งก็จะเชิญคู่กรณีเข้ามาไกล่เกลี่ยก่อน หากไม่สมัครใจก็จะยกเลิก 2. เรื่องกองทุนยุติธรรมช่วยเหลือด้านการดำเนินคดีให้ฟรี แต่มีหลักเกณฑ์คือ ยากจน โอกาสชนะคดีไม่ไปละเมิดสิทธิผู้อื่น เราถูกผู้อื่นละเมิดสิทธิ โดยเฉพาะได้รับผลกระทบเป็นกลุ่มประชาชนแบบนี้ส่วนใหญ่ก็จะได้รับความช่วยเหลือ ซึ่งจะมีคณะอนุกรรมการกองทุนยุติธรรม 12 คน มีผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางเป็นประธาน ซึ่งก็จะนำเรื่องเข้าสู่อนุกรรมการพิจารณาต่อไป


“ลงพื้นที่มาดูก็เห็นแล้วว่าชาวบ้านเข้าออกลำบากจริง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วย ซึ่งเบื้องต้นก็ถือว่าเข้าหลักเกณฑ์ในการที่จะเข้ามาให้ความช่วยเหลือ”

สำหรับความคืบหน้าที่ชาวบ้านได้ร้องขอความช่วยเหลือไปยังสำนักงานอัยการจังหวัดลำปาง ล่าสุดทางสำนักงานอัยการได้สอบข้อเท็จจริงทั้งสำนักงานที่ดิน เทศบาลนครลำปาง ถึงที่มาของทางสาธารณะดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว และได้ส่งรายงานข้อเท็จจริงทั้งหมดไปยังอธิบดีอัยการภาค 5 เป็นที่เรียบร้อย ขณะนี้อยู่ระหว่างการเชิญเจ้าของที่ดินเดิมที่ขายที่ดินให้เอกชนรายดังกล่าว และเอกชนที่ซื้อมาให้ข้อมูล ซึ่งทางอัยการได้มีหนังสือเชิญเจ้าของที่ดินเดิมไปแล้ว 1 ครั้งแต่ยังไม่มา กำลังจะออกหนังสือเชิญเป็นครั้งที่ 2




กำลังโหลดความคิดเห็น