แม่ฮ่องสอน - ผู้ว่าฯ นำคณะลงพื้นที่สำรวจเส้นทาง เตรียมความพร้อมพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวแม่สะเรียง-สบเมย ในพื้นที่อำเภอแม่สะเรียง และ อำเภอสบเมย เพื่อผลักดันการพัฒนาพื้นที่ชายแดนเพื่อความมั่นคง พร้อมส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยว
นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน นำทีมรองผู้ว่าฯ หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด ลงพื้นที่ติดตามผลความคืบหน้าโครงการสำคัญของรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย และจังหวัดแม่ฮ่องสอน ติดตามสถานการณ์ความมั่นคงชายแดน การพัฒนาคุณภาพชีวิต เส้นทางการค้า การท่องเที่ยว ด้าน อ.แม่สะเรียง อ.สบเมย ระหว่าง 11-13 พ.ค.เพื่อความมั่นคง พร้อมส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยว ประชุมหารือหัวหน้าส่วนราชการและผู้ประกอบการ ผู้นำชุมชน ประชาชนในการบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประเด็นที่มีการพูดถึงคือ การสร้างความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว เช่น การสัญจร ถนน และการรักษาสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการขยะ
โอกาสนี้ได้มีการลงพื้นที่สำรวจเส้นทางการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว พบปะผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวภายในศูนย์การเรียนรู้การท่องเที่ยวเชิงเกษตร และธรรมชาติ อำเภอสบเมย ณ สิริกร ฟาร์ม
นอกจากนั้น คณะยังได้เดินทางไปยังสำนักสงฆ์บ้านบุญเลอ หนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่โดดเด่น บ้านกลอเซโล หมู่ที่ 5 ตำบลสบเมย อำเภอสบเมย สำหรับกลอเซโล เป็นจุดชมทะเลหมอกสุดอันซีนแห่งอำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้ชื่อว่าเป็นทะเลหมอกสองแผ่นดิน มองไปอีกฝั่งจะเห็นประเทศเมียนมา และเขตแดนแม่น้ำสาละวิน มีวิวภูเขาสลับซับซ้อนเป็นแนวยาว ทะเลหมอกสีขาวมีภูเขาที่เรียงรายสลับซับซ้อน ตัดกับท้องฟ้าใส
คณะได้เดินทางไปยังบ้านสบเมย จุดท่องเที่ยวชมความสวยงามของแม่น้ำเมย ที่ไหลย้อยขึ้นเหนือไปบรรจบกับแม่น้ำสาละวิน อันเป็นที่มาของชื่อ อำเภอสบเมย ซึ่งเป็นพรมแดนธรรมชาติที่กั้นดินแดนไทย-เมียนมา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ตรวจเยี่ยมมาตรการรักษาความมั่นคงชายแดน และการส่งเสริมการค้า การท่องเที่ยวชายแดนในอนาคต
แม่น้ำเมย เป็นแม่น้ำสายย่อยของแม่น้ำสาละวิน มีต้นกำเนิดในอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ไหลตามหุบเขาเป็นแนวยาวเกือบเป็นเส้นตรงไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และทำหน้าที่เป็นแนวเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศพม่า ผ่าน อ.แม่สอด อ.แม่ระมาด อ.ท่าสองยาง ในเขต จ.ตาก ไปบรรจบรวมกับแม่น้ำสาละวินที่อำเภอสบเมย จ.แม่ฮ่องสอน มีความยาว 327 กิโลเมตร เป็นพรมแดนธรรมชาติประหว่างไทยกับพม่า และมีความสำคัญในการลำเลียงสินค้าทางน้ำระหว่างไทยกับพม่า
การไหลย้อนของแม่น้ำเมยเป็นลักษณะการเกิดทางน้ำตามแนวรอยเลื่อน จนเกิดเป็นหุบเขาโค้งตามแนวรอยเลื่อนที่ตัดผ่านชั้นหินในบริเวณนี้ ส่วนหุบเขาแม่น้ำยวมเกิดตามแนวรอยเลื่อนแนวเดียวกันกับแม่น้ำงัด ที่ไหลย้อนขึ้นไปทางเหนือ รวมกับแม่น้ำยวมที่ไหลลงมาทางใต้ แล้วไหลไปทางตะวันตกตัดผ่านเทือกเขาลงสู่แม่น้ำเมย
