ตาก - จังหวัดตากแถลงด่วน..ก่อนนายกฯ ลงพื้นที่พรุ่งนี้ ยันไม่มีประกาศภาวะฉุกเฉิน รพ.แม่สอดก็ยกเลิกฉุกเฉินแล้ว หลังคนเจ็บหนักทะลักวันปะทะหนักเมียวดี
วันนี้ (22 เม.ย.) ที่ห้องประชุมสายประทีป ชั้น 4 ศาลากลาง จ.ตาก นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแถลงข่าวสถานการณ์ชายแดน อ.แม่สอด จ.ตากก่อนที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีกำหนดจะเดินทางไปเยือน อ.แม่สอด ในวันที่ 23 เม.ย.นี้
โดยให้เหตุผลว่าสาเหตุที่มีการแจ้งแถลงข่าวด่วนเพื่อให้ความชัดเจนในการสื่อสารไปถึงประชาชน เพราะปัจจุบันสถานการณ์อยู่ในภาวะที่ควบคุมได้ตามแผน
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วจึงต้องเฝ้าจับตามองอยู่ตลอดเวลา แต่ขอให้ไว้วางใจเจ้าหน้าที่และจะมีข้อมูลแจกจ่ายให้ในทุกๆ เช้าต่อไป
จากนั้นฝ่ายทหารได้แจ้งว่าสถานการณ์ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านคุกรุ่นมาตั้งแต่ก่อนสงกรานต์กระทั่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการหยุดยิงและอยู่ในขั้นตอนของการเจรจาแล้ว แต่ยังคงมีการวางกำลังที่จะต้องเฝ้าติดตามต่อไป
ฝ่ายไทยทั้งทหาร ตำรวจ ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ฝ่ายปกครอง ฯลฯ ได้เตรียมความพร้อมมาอย่างต่อเนื่อง และช่วงนี้ได้ร่วมกันปฏิบัติงานอย่างแน่นแฟ้น มีการลาดตระเวน ตั้งจุดตรวจ ออกให้ข้อมูลเพื่อสร้างความรับรู้แก่ประชาชน ฯลฯ
พ.อ.ไมตรี ชูปรีชา รองผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร กล่าวว่า ด้านผลกระทบต่อไทยนั้นพบว่าจนถึงปัจจุบันกลุ่มผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมามาได้เริ่มเดินทางกลับด้วยความสมัครใจแล้ว จากเดิมที่มีกว่า 3,000 คนเศษ แต่ได้ทยอยเดินทางกลับด้วยความสมัครใจไปเรื่อยๆ โดยทางฝ่ายไทยนำโดยผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้ให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ส่วนด้านการค้าชายแดนที่ติดขัดนั้นคาดว่ามีแนวโน้มที่จะดีขึ้น
นายแพทย์ ปุริฉัตร ยิ่งรังสรรค์ รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.ตาก กล่าวว่า เริ่มมีเหตุการณ์สำคัญตั้งแต่วันเสาร์ที่ 20 เม.ย. และโรงพยาบาลแม่สอดได้ประกาศใช้แผนฉุกเฉิน แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ประกาศภาวะฉุกเฉิน เป็นเพียงแผน ณ ห้องฉุกเฉินภายในโรงพยาบาล เพราะคืนดังกล่าวมีผู้ป่วยประสบเหตุเข้าไปรักษาด่วนถึง 22 ราย
สาเหตุที่ใช้แผนเพื่อระดมบุคลากรและอุปกรณ์เพื่อรีบจัดการผู้ป่วยให้รอดพ้นอันตรายโดยเร็ว หลังจากประกาศแผนฉุกเฉินได้เพียงแค่ 3 ชั่วโมง เมื่อผู้ป่วยถูกส่งไปรอการผ่าตัด เข้านอนพัก ฯลฯ หรือพ้นจากขีดอันตรายแล้วก็มีการปิดแผนฉุกเฉินแล้ว จึงถือเป็นแผนที่ใช้ปฏิบัติการภายในโรงพยาบาล ซึ่งที่ผ่านมาเคยใช้กรณีเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ที่มีผู้บาดเจ็บจำนวนมากในคราวเดียว ดังนั้นประชาชนจึงไม่ต้องกังวลว่าเป็นภาวะฉุกเฉินแต่เป็นแผนฉุกเฉินภายในโรงพยาบาล
"อย่างไรก็ตาม เราได้เตรียมโรงพยาบาลเพื่อรับมือ ทุกๆ โรงพยาบาล ให้ดูแลพี่น้องประชาชน ทุกเชื้อชาติ ศาสนา ตามหลักสิทธิมนุษยชน ที่มีความเจ็บป่วย อุบัติเหตุ หรือได้รับอุบัติภัยใดๆ มาตอนนี้นอนในโรงพยาบาลจำนวน 45 ราย แบ่งเป็นโรงพยาบาลแม่สอด 38 ราย โรงพยาบาลพบพระ 2 ราย โรงพยาบาลแม่ระมาด 5 ราย เรามีการช่วยเหลือกันระหว่างโรงพยาบาลเพื่อรับผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก"
ทั้งนี้ ยืนยันว่าโรงพยาบาลมีศักยภาพรับผู้ป่วยนอนที่โรงพยาบาลได้มากกว่านี้ในระดับ 60-100 ราย เราได้เตรียมการระดมคน ทรัพยากรของทุกโรงพยาบาลในจังหวัด ระดมทีมแพทย์ ระดมเครือข่าย ขอให้ความมั่นใจแก่ประชาชนว่ายังให้บริการต่อได้ และพี่น้องประชาชนคนไทยก็ได้รับการให้บริการแบบปกติและเต็มที่เช่นเดิม
นายแพทย์ ปุริฉัตรกล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่ปลอดภัยได้จัดทีมไปดูแล เช่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.) ฯลฯ แล้ว
ด้านนายสมชัยระบุว่า โดยหลักมารยาทไม่สามารถบอกได้ว่าผู้เข้ารับการรักษาเป็นใครและฝ่ายใด ส่วนผู้ที่หนีภัยความสงบมายังฝั่งไทยได้สอบถามแล้วทราบว่าหนีมาแบบฉุกเฉินจึงมีท่าทีอยากกลับไป แต่ทางฝ่ายไทยมีแนวทางชัดเจนว่าจะให้กลับตามความสมัครใจโดยไม่มีการผลักดันกลับเด็ดขาด หรือแม้แต่สมัครใจก็จะประเมินสถานการณ์หากไม่ปลอดภัยก็จะยังไม่ให้กลับ เช่น มีเสียงปืนเสียงระเบิด ฯลฯ แต่จะกลับหมดเมื่อไหร่นั้นตอบได้ยากมาก