ตาก - ศาลปกครองยกคำร้องระงับย้ายกากแคดเมียมคืนตากถิ่นกำเนิด ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าขนเข้าโรงพักคอยเตรียมฝังกลบเกือบพันตันแล้ว
ความคืบหน้าการขนกากแคดเมียมนำกลับมาเตรียมฝังกลบที่บริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่เลขที่ 94 หมู่ที่ 1 ถนนพหลโยธิน กม.409-410 ต.หนองบัวใต้ อ.เมืองตาก ซึ่งเป็นโรงงานกักเก็บกากอุตสาหกรรมแคดเมียม ต้นทาง ก่อนจะมีการขนไปสมุทรสาคร และกรุงเทพมหานคร
ซึ่งได้ทำการขนย้ายกลับมาตั้งแต่ 29 เมษายน 2567 จำนวน 254 ตัน และครั้งที่ 2 ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2567 จำนวนประมาณ 221 ตัน และล่าสุด ครั้งที่ 3 วันที่ 7 พฤษภาคม 2567 ได้มีการขนย้ายมา จ.ตาก ด้วยรถตู้คอนเทนเนอร์ 6 คัน น้ำหนักประมาณ 178 ตัน ครั้งที่ 4 วันที่ 8 พฤษภาคม 2567 ใช้รถตู้คอนเทนเนอร์จำนวน 6 คัน ขนย้ายกากแคดเมียม 147 ตัน ถึง จ.ตากช่วงเช้ามืดวันที่ 9 พ.ค. 2567 ครั้งที่ 5 วันที่ 9 พฤษภาคม 2567 ใช้รถตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 6 คันขนย้ายกากแคดเมียม 176 ตัน ถึง จ.ตาก เช้าวันนี้ (10 พ.ค.) รวม 976 ตันแล้ว
ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองจังหวัดพิษณุโลก และได้นัดไต่สวนคำร้องทั้งสองฝ่าย คือผู้ร้อง ได้แก่ชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบ กับผู้ถูกร้อง ได้แก่หน่วยงานและคณะทำงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 7 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยนายศุภโรฒ พรมทับ ผู้รับมอบอำนาจ ได้แถลงต่อศาลฝากข้อกังวลไปถึงผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสอง 5 ข้อ คือ
1. การเก็บกากแคดเมียมในโรงพักคอยให้เป็นระบบปิดตามมาตรฐานความปลอดภัย 2. กากแคดเมียมที่ขุดจากบ่อ 4 มาเก็บไว้ในโรงเล็ก ที่ไม่มีการป้องกัน ประมาณ 2,000 กว่าตัน ทางบริษัทมีมาตรการจัดการอย่างไร ซึ่งปัจจุบันอาจมีนกหรือหนูเข้าไปแล้วติดออกมาภายนอกได้
3. เรื่องความปลอดภัยบ่อ 4 ยังไม่มีการตรวจสอบความเสียหายความแข็งแรงของบ่อ 4. เรื่องบ่อที่ 5 เราสงสัยการรั่วไหลของน้ำที่นำไปล้างในบ่อที่ผ่านมามันหายไปในใต้ดิน มีข้อกังวลว่าอาจมีการรั่วไหลลงพื้นดิน หรือไม่ และ 5. เรื่องการขนย้ายกากแคดเมียมจากจุดพักคอยทั้งสองจุด ไปบ่อฝังกลบต้องมีมาตรการที่ปลอดภัยในการขนย้าย
ทั้งนี้ ทางฝั่งคณะทำงานฯ แถลงต่อศาลยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และพร้อมน้อมรับคำเสนอแนะของประชาชนไปพิจารณาดำเนินการ ซึ่งศาลปกครองพิษณุโลกจะมีคำวินิจฉัยหนังสือแจ้งทางจดหมายส่งไปที่บ้านต่อไป
ล่าสุดวันนี้ (10 พ.ค.) นายฐิติพงษ์ ระวังภัย รองประธานสภาทนายความจังหวัดตาก ในฐานะทนายอาสาในคดีนี้ เปิดเผยว่า ได้รับหนังสือแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการฟ้องคดีต่อศาลปกครองพิษณุโลก เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 ซึ่งมีคำสั่ง 2 ประการ คือ
ศาลรับคำฟ้อง กรณีฟ้อง คณะทำงานแก้ไขปัญหาและการขนย้ายกากตะกอนแคดเมียมเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ โดยรับเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมายและจากการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร และให้เรียกบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) เข้ามาเป็นคู่ความในคดีด้วยโดยให้เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 แต่ศาลมีคำสั่งยกคำขอมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษาของผู้ฟ้องคดี
ทั้งนี้โดยสรุปได้ความว่า “ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ก็ได้ให้ถ้อยคําต่อศาลในทํานองว่าผู้ฟ้องคดีทั้งสามและ ประชาชนสามารถแสดงข้อห่วงกังวลความคิดเห็นข้อเสนอแนะต่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาดําเนินการได้ ดังนั้น หากศาลมีคําสั่งระงับการขนย้ายกากตะกอนแคดเมียมในระหว่างการพิจารณาคดีนี้ อาจทําให้เกิดปัญหาอุปสรรคต่อการแก้ไขปัญหาการขนย้ายกากตะกอนแคดเมียมของภาครัฐ ทำให้การดำเนินการหยุดชะงัก สร้างความเสียหายต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อมมากกว่าการให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 3 ดําเนินการตามแผนการที่วางไว้
เมื่อคำนึงถึงความรับผิดชอบของผู้ถูกฟ้องคดี และปัญหาอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นแก่การบริหารงานของรัฐแล้ว กรณีจึงยังไม่มีเหตุสมควรและเพียงพอที่จะนําวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนการพิพากษาตามที่ผู้ฟ้องคดีร้องขอให้ระงับการขนย้ายกากตะกอนแคดเมียมเป็นการชั่วคราวก่อนการพิพากษามาใช้ได้
อย่างไรก็ตาม หากมีเหตุที่จะขอคุ้มครองชั่วคราวใหม่ก็สามารถยื่นได้ เช่น พบว่ามีการทำงานที่อาจเกิดความเสียหายได้ระหว่างการทำงานของคณะทำงาน