ฝุ่นพิษเชียงใหม่แรงไม่แผ่ว เหตุไฟป่าผุดไม่หยุด-ยึดแนวหน้าเหนียวแน่นเมืองคุณภาพอากาศเลวร้าย

เชียงใหม่ - ฝุ่นควันเชียงใหม่แรงไม่แผ่ว เหตุไฟป่าผุดไม่หยุด จุดความร้อนพุ่งครองอันดับ 1 ภาคเหนือ ค่ามลพิษยังติดลมบนยึดแถวหน้าเมืองหลักคุณภาพอากาศเลวร้ายที่สุดในโลก


วันนี้ (29 เม.ย. 67) รายงานข่าวแจ้งว่าสถานการณ์ปัญหาฝุ่นควันไฟป่าและมลพิษอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ยังคงรุนแรงต่อเนื่อง โดยสภาพตัวเมืองเชียงใหม่ถูกปกคลุมด้วยฝุ่นควันหนาทึบแทบจะตลอดทั้งวันและเกือบทุกวันตลอดทั้งเดือนที่ผ่านมา ยกเว้นในช่วงที่มีฝนตกที่ส่งผลดีทำให้ฝุ่นเบาบางลงและท้องฟ้าสดใสขึ้น แต่หลังจากที่ฝนขาดช่วงไปแล้ว ฝุ่นควันจะกลับมาปกคลุมหนาทึบตามเดิม ซึ่งเป็นผลมาจากไฟไหม้ป่าที่ยังคงเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ แม้ว่าทางเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพยายามป้องกันแก้ไขอยู่ตลอด

ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จังหวัดเชียงใหม่ รายงานจุดความร้อนรอบเช้าประจำวันที่ 29 เม.ย. 67 ว่าพบจุดความร้อนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 52 จุด ซึ่งพบมากที่สุดที่อำเภอเชียงดาว 15 จุด รองลงไป ได้แก่ แม่แจ่ม 12 จุด, พร้าว 6 จุด, ฝาง 4 จุด, แม่แตง 3 จุด, กัลยาณิวัฒนา 3 จุด, แม่วาง 2 จุด, แม่ออน 2 จุด, แม่อาย 1 จุด, สะเมิง 1 จุด, ดอยเต่า 1 จุด, ฮอด 1 จุด และเวียงแหง 1 จุด

ขณะที่ข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISDA) ระบุว่าในรอบ 24 ชั่วโมงของวันที่ 28 เม.ย. 67 พบจุดความร้อน (Hotspot) ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ รวมทั้งสิ้น 1,065 จุด อยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 166 จุด ซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของภาคเหนือ ส่วนอันดับ 2 ได้แก่ จังหวัดน่าน 139 จุด, อันดับ 3 เชียงราย 97 จุด, อันดับ 4 ลำปาง 93 จุด และอันดับ 5 แม่ฮ่องสอน 93 จุด

ทั้งนี้ รายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจากสถานีของกรมควบคุมมลพิษที่ติดตั้งอยู่ในตำบลช้างเผือก, ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่, ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม, ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว และตำบลหางดง อำเภอฮอด พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น. วันนี้ อยู่ที่ 74.9 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 67.2 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 55.9 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 102.7 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และ 53.3 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 37.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ส่วนค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 200, 179, 149, 228 และ 143 ตามลำดับ จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 100 ทั้งนี้ ภาพรวมคุณภาพอากาศอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ

ด้านเว็บไซต์ Iqair.com ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศจากทั่วโลก แจ้งผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศและการจัดอันดับเมืองที่มีมลพิษทั่วโลก เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ พบว่าจังหวัดเชียงใหม่มีดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 161 US AQI และค่า PM 2.5 วัดค่าได้ 74.1 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินค่ามาตรฐาน และอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อทุกคน โดยผลการตรวจวัดคุณภาพอากาดังกล่าวอยู่ในอันดับที่ 4 ของเมืองหลักที่มีมลพิษอากาศสูงสุดของโลก ขณะที่อันดับ 1 ได้แก่ แบกแดด ประเทศอิรัก ดัชนีคุณภาพอากาศ 490 US AQI, อันดับ 2 เดลี ประเทศอินเดีย 226 US AQI และอันดับ 3 กาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล 169 US AQI