เชียงใหม่ - วิกฤตฝุ่นควันเชียงใหม่ยังอาการสาหัส ค่ามลพิษสูงยึดอันดับ 1 เมืองหลักคุณภาพอากาศเลวร้ายที่สุดในโลกต่อเนื่อง โดยทางจังหวัดออกประกาศขอความร่วมมือให้พิจารณาจัดการทำงานแบบ Work from Home ระหว่าง 9-11 เม.ย. 67 เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน อย่างไรก็ตามพบคนส่วนใหญ่ยังต้องออกไปทำงานตามปกติ ยกเว้นหน่วยราชการส่วนใหญ่ที่ตอบสนองและปฏิบัติตามได้ทันที
วันนี้ (9 เม.ย. 67) รายงานข่าวแจ้งว่าสถานการณ์ฝุ่นควันไฟป่าและมลพิษอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ยังคงรุนแรงต่อเนื่อง โดยสภาพตัวเมืองเชียงใหม่ถูกปกคลุมหนาทึบด้วยฝุ่นควันจนไม่สามารถมองเห็นยอดดอยสุเทพจากระยะไกลได้เหมือนช่วงปกติ ซึ่งจากสถานการณ์ที่เลวร้ายดังกล่าวนี้ ทางจังหวัดเชียงใหม่จึงได้มีการออกประกาศขอความร่วมมือให้หน่วยงานราชการและเอกชนพิจารณาการทำงานแบบ Work from Home ระหว่างวันที่ 9-11 เม.ย. 67 เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน อย่างไรก็ตาม พบว่าผู้คนส่วนใหญ่จำเป็นต้องออกไปทำงานตามปกติเนื่องจากผู้ประกอบการเอกชนยังคงเปิดตามปกติ รวมทั้งลูกจ้างจำนวนมากเป็นผู้ใช้แรงงานและรับค่าจ้างเป็นรายวันที่ไม่สามารถทำงานจากที่บ้านได้ ขณะที่ในส่วนของหน่วยงานราชการนั้น พบว่าหลายหน่วยงานสามารถปฏิบัติตามประกาศดังกล่าวได้ทันที โดยเฉพาะที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่
สำหรับจุดความร้อนจากไฟไหม้ป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่นั้น ข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISDA) ระบุว่าในรอบ 24 ชั่วโมงของวันที่ 8 เม.ย. 67 พบจุดความร้อน (Hotspot) ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ รวมทั้งสิ้น 961 จุด อยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 207 จุด ซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ส่วนอันดับ 1 ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน 297 จุด, อันดับ 3 ตาก 83 จุด,อันดับ 4 น่าน 82 จุด และอันดับ 5 ลำปาง 44 จุด ขณะที่ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จังหวัดเชียงใหม่ รายงานจุดความร้อนรอบเช้าประจำวันที่ 9 เม.ย. 67 ว่าพบจุดความร้อนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 145 จุด มากที่สุดในพื้นที่อำเภอเชียงดาว 21 จุด รองลงไป ได้แก่ แม่แจ่ม 19 จุด, ฮอด 18 จุด, ฝาง 16 จุด, อมก๋อย 14 จุด, แม่แตง 14 จุด, ไชยปราการ 11 จุด, สันกำแพง 9 จุด, พร้าว 6 จุด, สะเมิง 4 จุด, แม่อาย 4 จุด, กัลยาณิวัฒนา 3 จุด, เวียงแหง 2 จุด, ดอยสะเก็ด 2 จุด และแม่วาง 2 จุด
ทั้งนี้ รายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจากสถานีของกรมควบคุมมลพิษที่ติดตั้งอยู่ในตำบลช้างเผือก, ตำบลศรีภูมิ, ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่, ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม, ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว และตำบลหางดง อำเภอฮอด พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น. วันนี้ อยู่ที่ 122.7 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 129.8 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 125.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 76 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร, 151.6 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และ 75.3 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 37.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ส่วนค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 248, 255, 251, 202, 77 และ 201 ตามลำดับ จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 100 ทั้งนี้ ภาพรวมคุณภาพอากาศอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ
ขณะที่เว็บไซต์ Iqair.com ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศจากทั่วโลก แจ้งผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศและการจัดอันดับเมืองที่มีมลพิษทั่วโลก เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ พบว่าจังหวัดเชียงใหม่มีดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 197 US AQI และค่า PM 2.5 วัดค่าได้ 145 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินค่ามาตรฐาน และอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อทุกคน โดยผลการตรวจวัดคุณภาพอากาดังกล่าวอยู่ในอันดับที่ 1 ของเมืองหลักที่มีมลพิษอากาศสูงสุดของโลก ขณะที่อันดับ 2 ได้แก่ คูเวตซิตี้ ประเทศคูเวต ดัชนีคุณภาพอากาศ 194 US AQI และอันดับ 3 กาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล 191 US AQI