เมียวดี/แม่สอด - กระแสข่าวแพร่สะพัด..ทหารพม่าเคลื่อนกำลังพลตามปฏิบัติการ “อองเซยะ หรืออองซียา” ห่างเมียวดีแค่ 15 กม. คาดเร่งปรับกำลังก่อนเดินหน้าถล่มฝ่ายต่อต้าน-ทวงเมืองคืน ขณะที่กองกำลังพันธมิตรกะเหรี่ยงยังถล่มทหารเมียนมาแตกทัพต่อเนื่อง ทำชาวบ้านผวาหนีตายข้ามน้ำเมยเข้าไทยทะลุพัน
วันนี้ (20 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก-เมียวดี เมียนมา หลังทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู) กองพลน้อยที่ 6 และเคเอ็นยูพีซี รวมทั้งกองกำลังพีดีเอฟ กองกำลังปกป้องประชาชนของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (เอ็นยูจี) เปิดฉากโจมตีทหารพม่าแตกทัพจากกองพัน 275 แล้วหลบหนีมาอยู่กระจายตามพื้นที่บริเวณใกล้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 จำนวนกว่า 100-200 นาย ซึ่งมีนายทหารระดับ ผบ.พล.44 จำนวน 1 นาย และผบ.พัน.275 จำนวน 1 นาย
กลุ่มต่อต้านได้เปิดปฏิบัติการบินโดรนทิ้งระเบิดกว่า 20 ลูกตั้งแต่คืนที่ผ่านมา ก่อนระดมยิงซ้ำด้วยปืนเล็ก ปืนกล และเครื่องยิงระเบิด เสียงอาวุธปืนที่เกิดจากการปะทะกันของทั้งสองฝ่ายได้ยินไกลถึงฝั่ง อ.แม่สอด จ.ตาก ขณะที่กองทัพทหารเมียนมาได้ส่ง ฮ.โจมตี MI 35 บินมาสนับสนุน-โจมตีกองกำลังกลุ่มต่อต้านในพื้นที่เมืองเมียวดีด้วย
ด้วยสถานการณ์ที่รุนแรงขึ้นทำให้ชาวเมียนมาในเมืองเมียวดีเริ่มอพยพหนีตายลงท่าน้ำบริเวณกาสิโน และท่าอื่นๆ เพื่อลงเรือ-เดินลุยน้ำเมย หนีตายข้ามฝั่งเข้าไทย ณ ก่อนเที่ยงวันนี้ไม่ต่ำกว่า 1,686 คนแล้ว เป็นชาย 464 คน หญิง 648 คน เป็นเด็กชาย 306 คน และเด็กหญิง 268 คน ทั้งหมดถูกลำเลียงไปยังพื้นที่พักพิงชั่วคราวที่ทางการไทยเตรียมไว้ เช่น คอกวัว วังตะเคียน หมู่ที่ 7 บ้านวังตะเคียนใต้ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก โดยเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ไทย เข้าให้การช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม
ล่าสุดมีรายงานข่าวจากฝ่ายความมั่นคงแจ้งว่า ทหารเมียนมาได้เสริมกำลังเข้ามาถึงหมู่บ้านปางกานแล้ว ห่างจากเมียวดี 15 กิโลเมตร คาดว่าหลังจากการปรับกำลังเสร็จจะเข้าปฏิบัติการขับไล่ฝ่ายต่อต้านที่ยึดครองเมียวดีอยู่ทันที
ด้านทหารไทยหน่วยเฉพาะกิจราชมนู อ.แม่สอด ได้นำรถยนต์เกราะล้อยางจำนวนหลายคัน พร้อมกำลังทหารเฝ้าระวังตามแนวชายแดนตลอดเวลา ขณะที่เสียงปืนใหญ่ และเสียงระเบิดดังเป็นระยะๆ ก้องถึงอำเภอแม่สอด
