รถยานเกราะของกองทัพลาดตระเวนไปตามเมืองแม่สอดในวันพุธ (10 เม.ย.) ท่ามกลางเสียงปืนใหญ่ดังสนั่นในฝั่งตรงข้ามชายแดนในพม่า ดินแดนที่กองกำลังคณะรัฐประหารและพวกติดอาวุธชาติพันธุ์กลุ่มหนึ่งทำการสู้รบกันเป็นวันที่ 2 ใกล้ศูนย์กลางการค้าที่สำคัญแห่งหนึ่ง ตามรายงานของสำนักข่าวเอเอฟพี
เอเอฟพีรายงานว่า พบเห็นผู้คนหลายร้อยคนต่อแถวเข้าไปประเทศไทย ณ ด่านตรวจคนเข้าเมืองแห่งหนึ่งในอำเภอแม่สอด จำนวนมากหลบหนีการสู้รบรอบใหม่ที่ทดสอบสถานะการกุมอำนาจของคณะรัฐประหาร
รายงานของเอเอฟพีระบุว่า ทหารไทยเข้าประจำการอยู่บริเวณด้านล่างของสะพานมิตรภาพที่เชื่อมแม่สอดกับเมืองเมียวดี ศูนย์กลางการค้าของพม่า ขณะเดียวกัน ก็พบเห็นเงาของทหารพม่าที่ประจำการอยู่ฝั่งตรงข้าม ที่มีแม่น้ำอันแห้งขอดกั้นกลางระหว่าง 2 ชาติ เป็นระยะทางราว 200 เมตร
บริเวณด้านบนพบเห็นชาวบ้านหลายคนเดินข้ามสะพานมิตรภาพ เพื่อหาที่ปลอดภัยหลบภัยในประเทศไทย "ฉันกลัวมาก ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจข้ามไปฝั่งไทย" Khu วัย 49 ปี จากเมียวดีบอกกับเอเอฟพี พร้อมเผยว่าเธอได้วีซ่าที่สามารถพำนักในไทยได้ 7 วัน แต่เธอไม่ต้องการกลับมาจนกว่าการสู้รบจะหยุดลง
ทหารไทยนายหนึ่งซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม เปิดเผยกับเอเอฟพีว่า เสียงปะทะในความขัดแย้งมีความหนักหน่วงมากที่สุดเท่าที่เขาเคยได้ยินมา ตามแนวชายแดนรัฐกะเหรี่ยงของพม่า ในรอบกว่า 15 ปี
เจ้าหน้าที่คนเข้าเมืองรายหนึ่งบอกกับเอเอฟพีว่า จำนวนคนเข้าเมืองจากพม่าที่ผ่านเข้าสู่ประเทศไทยเพิ่มขึ้นเป็นราว 4,000 คนต่อวันในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา จากระดับปกติซึ่งอยู่ที่ประมาณ 1,900 คนต่อวัน พร้อมเผยว่าได้มีการเสริมเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เพื่อรับมือกับความเป็นไปได้ที่จะมีคนเข้าเมืองเพิ่มมากขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
การปะทะเกิดขึ้นในขณะที่รัฐบาลทหารกำลังหัวหมุนกับความพ่ายแพ้ในหลายสมรภูมิในทางภาคเหนือและตะวันตกของพม่า นำให้ฝ่ายต่อต้านบางส่วนเชื่อว่าวันหนึ่งพวกเขาจะสามารถโค่นล้มได้
นักรบจากสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) เมื่อวันพุธ (10 เม.ย.) เปิดเผยว่าสามารถยึดฐานที่มั่นทางทหารแห่งหนึ่ง ห่างจากเมืองเมียวดี ไปทางตะวันตกราว 10 กิโลเมตร โดยที่มีทหารและตำรวจพร้อมครอบครัวรวมแล้วกว่า 600 คน ยอมจำนน
โฆษกของ KNU ยืนยันกับเอเอฟพีว่า พวกนักรบของกลุ่มได้ปะทะกับทหารอีกรอบในวันพุธ (10 เม.ย.) อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคณะรัฐประหาร ไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างของ KNU ที่บอกว่ามีการยอมจำนน ณ ฐานทัพติงกะหยิงหย่อง (Thingannyinaung)
พวกชาวบ้านบอกกับเอเอฟพีว่า การสู้รบเริ่มต้นขึ้นแถวเมียวดีในวันอังคาร (9 เม.ย.) ส่งผลให้ผู้คนหลบหนีข้ามชายแดน แต่ดูเหมือนว่าพวกนักรบ KNU จะไม่ได้เข้าไปในตัวเมือง "การสู้รบมีขึ้นตลอดคืนและตอนเช้าเช่นกัน" ชาวบ้านรายหนึ่งเล่ากับเอเอฟพี "เราได้ยินเสียงปืนใหญ่และระเบิดจากที่หลบซ่อนของเรา เครื่องบินหลายลำบินอยู่ด้านบน แม่ของผมและพี่น้องหลบหนีไปแม่สอดในตอนเช้าวันนี้ ตอนนี้ผมกับลุงของผมจำเป็นต้องอยู่เพื่อคอยปกป้องบ้าน"
ในไทย ประเทศเพื่อนบ้าน ชาวบ้านรายหนึ่งในแม่สอดบอกกับเอเอฟพีว่า พบเห็นรถทหารไทย 8 คัน มุ่งหน้าสู่ชายแดนในค่ำคืนวันอังคาร (9 เม.ย.)
ไทยมีชายแดนติดกับพม่าเป็นระยะทางราว 2,400 กิโลเมตร และท่ามกลางเหตุปะทะในประเทศเพื่อนบ้าน ทางกระทรวงการต่างประเทศของไทยเปิดเผยว่าในวันอังคาร (9 เม.ย). กำลังเตรียมแผนรับผู้อพยพจากพม่า 100,000 คน หลังจากนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน พบปะกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงก่อนหน้านี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นชายแดน
(ที่มา : เอเอฟพี)