พม่าส่งขบวนรถหุ้มเกราะเสริมกำลัง "ค่ายผาซอง" ตัวเมืองเมียวดียังปกติ สนามกอล์ฟมีคนออกรอบ

MGR Online - ขบวนรถหุ้มเกราะกว่า 20 คันเดินทางจากผาอันมุ่งหน้าเมียวดี คาดช่วยเสริมกำลังการสู้รบรอบค่ายผาซอง ฐานที่มั่นสุดท้ายของพม่าติดชายแดนไทย ด้านสถานการณ์ในตัวเมืองเมียวดียังปกติ สะพานมิตรภาพ 2 แห่ง เปิดให้คน 2 ฝั่งข้ามไปมาหากันได้ ส่วนสนามกอล์ฟเมียวดียังมีคนออกรอบ ท่ามกลางเสียงปืน เสียงระเบิดที่ดังก้อง

Karen Information Center รายงานว่า ช่วงบ่ายวันนี้ (10 เม.ย.) มีผู้พบเห็นขบวนรถหุ้มเกราะ และรถลำเลียงพลของกองทัพพม่า จำนวนมากกว่า 20 คัน ได้เคลื่อนตัวลงตามทางหลวงเอเชียหมายเลข 1 (AH1) ช่วงจากเมืองผาอันมายังเมืองเอ่งดุ เพื่อมุ่งหน้าต่อมายังเมืองเมียวดีชายแดนพม่า-ไทย ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก

ตามรายงานข่าว คาดว่าขบวนรถทหารกลุ่มนี้จะเข้ามาเสริมกำลังในการสู้รบระหว่างทหารของกองทัพพม่ากับทหารกองกำลังผสมที่ประกอบด้วยกองกำลังติดอาวุธของรัฐบาลเงา (PDF) และทหารบางส่วนจากกองพลที่ 6 กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA 6) ที่ต่อสู้กันยืดเยื้อยาวนานบริเวณชานเมืองเมียวดีมาตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม 2567


สถานการณ์ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.ของวันนี้ กองกำลังผสม PDF กับ KNLA 6 ยังคงพยายามบุกโจมตีเพื่อยึดค่ายผาซอง ซึ่งเป็นฐานที่ตั้งของกองพันทหารราบที่ 275 บริเวณนอกตัวเมืองเมียวดี ห่างจากชายแดนพม่า-ไทย ที่เชิงสะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 ประมาณ 5 กิโลเมตร

ค่ายผาซองถือเป็นที่มั่นสุดท้ายของกองทัพพม่าในเมียวดี และเป็นฐานที่ตั้งอยู่ใกล้ชายแดนไทยมากที่สุด กองกำลังผสม PDF-KNLA 6 เริ่มบุกโจมตีค่ายผาซองตั้งแต่ช่วงค่ำของเมื่อวานนี้ (9 เม.ย.) ด้วยปืนเล็กและเครื่องยิงลูกระเบิด แต่ถูกโต้กลับจากทหารพม่าภายในค่ายด้วยปืน ค.120 มม. นอกจากนี้ กองทัพพม่ายังใช้เครื่องบินรบขึ้นบินยิงจรวดใส่บริเวณที่คาดว่ามีทหาร PDF-KNLA 6 เคลื่อนไหวอยู่

ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ได้เกิดไฟไหม้ปั๊มน้ำมันซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าของค่าย ทำให้เกิดเปลวไฟและกลุ่มควันหนาแน่น มองเห็นได้ชัดจากฝั่งไทย

สำหรับสถานการณ์ในตัวเมืองเมียวดีและแม่สอดวันนี้ยังเงียบสงบ สะพานมิตรภาพไทย-พม่า ทั้งแห่งที่ 1 และแห่งที่ 2 เปิดให้คนข้ามไปมาได้เป็นปกติ โดยคนจากฝั่งเมียวดียังคงข้ามสะพานมาจับจ่ายซื้อสินค้าในตัวเมืองแม่สอด ขณะที่ชาวแม่สอดจำนวนหนึ่งข้ามไปเที่ยวชมเมืองเมียวดี

มีรายงานว่าช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่มีเสียงปืน เสียงระเบิดดังกึกก้องอยู่เป็นระยะ ควันไฟยังพวยพุ่งขึ้นบนท้องฟ้าจากไฟที่ลุกไหม้ปั๊มน้ำมันหน้าค่ายผาซอง แต่ที่สนามกอล์ฟเมียวดี ยังมีนักกอล์ฟประมาณ 8-9 คน เดินออกรอบตีกอล์ฟกันตามปกติ ไม่แสดงท่าทีหวั่นเกรงต่อการสู้รบที่อยู่ไม่ห่างออกไปแต่อย่างใด


เมื่อวานนี้ (9 เม.ย.) Popular News Journal ได้สัมภาษณ์ พันตรีไหน่หมองส่อ นายทหารของ Karen National Army (KNA) หรือกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (Border Guard Force : BGF) เดิม ซึ่งได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ทหารของ KNA เคลื่อนกำลังเข้าควบคุมจุดต่างๆ ในตัวเมืองเมียวดีเอาไว้ได้หมดแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้การสู้รบลามเข้ามาถึงในตัวเมืองเมียวดี ไม่ว่าจะมาจากฝ่ายใดก็ตาม ทั้งฝ่ายพม่าหรือกะเหรี่ยง

KNA มีกำลังพลของอยู่ประมาณ 7,000 นาย แบ่งเป็น 13 กองพัน แต่ละกองพันมีกำลังทหารประมาณ 550 นาย ทำหน้าที่ควบคุมพื้นที่ในตัวเมืองเมียวดี ชายแดนเมียวดี-แม่สอด รวมถึงเมืองใหม่ที่สร้างขึ้นโดยกลุ่มจีนเทา อย่างเคเค ปาร์ค และฉ่วยก๊กโก และจนถึงขณะนี้ KNA เป็นกองกำลังติดอาวุธชาวกะเหรี่ยงที่เหลืออยู่เพียงกลุ่มเดียวที่ยังไม่ได้แสดงท่าทีชัดเจนออกมาว่าจะยืนอยู่ฝ่ายใดระหว่างกองทัพพม่า หรือกองกำลังผสม PDF-KNLA 6

การสู้รบระหว่างกองทัพพม่ากับกองกำลังผสม PDF-KNLA 6 เริ่มปะทุรุนแรงขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม 2567 เป็นต้นมา กองกำลังผสมได้บุกโจมตีและยึดฐานทหารพม่า 3 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตติงกานหญี่หน่อง ห่างจากชายแดนเมียวดี-แม่สอด ประมาณ 13 กิโลเมตร ได้แก่ฐานของกองพันที่ 355 356 และ 357 โดยฐานทหารพม่าแห่งล่าสุดที่ถูกยึดได้เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2567 คือ กองบังคับการยุทธการ (บก.ยก.) ที่บ้านปางกาน ในเขตติงกานหญี่หน่อง ทำให้กองผสม PDF-KNLA 6 สามารถควบคุมตัวทหารพม่าทั้งนายทหาร พลทหาร ครอบครัวทหาร และเจ้าหน้าที่รัฐไว้เป็นเชลยได้จำนวน 617 คน

จากนั้นกองผสม PDF-KNLA 6 จึงได้เคลื่อนกำลังเข้ามาใกล้ตัวเมืองเมียวดีมากขึ้น เพื่อโจมตีและพยายามเข้ายึดค่ายผาซอง ซึ่งเป็นฐานที่มั่นสุดท้ายของกองทัพพม่าในเมืองเมียวดี ซึ่งยังคงมีการสู้รบกันอยู่จนถึงขณะนี้.