ผู้ถือหุ้นOR อนุมัติการจ่ายเงินปันผลงวดปี2566 ที่อัตราหุ้นละ 0.52บาท โดยกำหนดจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลัง 66 ที่อัตราหุ้นละ 0.27บาท ในวันที่ 29 เม.ย.นี้
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR พร้อมด้วยคณะกรรมการบริษัท และ นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร OR จัดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 เพื่อรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทในรอบปี 2566 ในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-AGM)
โดย OR มุ่งมั่นที่จะแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการจัดการประชุม ผ่านการขอรับรองกิจกรรมชดเชยคาร์บอนตามแนวทาง Carbon Neutral Event ขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนในปี 2030 ของ OR (OR 2030 Goals) ที่ครอบคลุมทั้งสังคมชุมชน สิ่งแวดล้อม และผลการดำเนินการที่ดี และได้นำหลักการการจัดประชุมอย่างยั่งยืนตามแนวทางการจัดประชุมสีเขียว หรือ Green Meeting ขององค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน และสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย มาประยุกต์ใช้เพื่อสนับสนุนการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า
นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 ได้พิจารณาอนุมัติการจัดสรรกำไรสุทธิเป็นทุนสำรองตามกฎหมาย และการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานของปี 2566 ซึ่งเสนอจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นที่อัตรา 0.52 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลต่อกำไรสุทธิร้อยละ 56.2
โดยบริษัทได้มีการจ่ายปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งแรกของปี2566 ไปแล้วที่อัตราหุ้นละ 0.25บาท เมื่อวันที่ 22กันยายน2566 คงเหลือการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทครึ่งหลังของปี 2566 ที่อัตรา 0.27 บาทต่อหุ้น กำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 29 เมษายน 2567
นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ได้รับทราบการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การใช้เงินเพิ่มทุนเพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์และทิศทางของแผนธุรกิจในปัจจุบัน โดยมีวัตถุประสงค์การใช้เงินเพิ่มทุนที่อนุมัติใหม่ ดังนี้
โดยตามงบประมาณแผนการใช้เงิน ปี 2564-2568 วงเงินลงทุนรวม 53,497 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.การลงทุนในกลุ่มธุรกิจ Mobility วงเงิน 25,600 ล้านบาท
1.1 การขยายเครือข่ายสถานีบริการ รวมการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้าและการบริหารพื้นที่
1.2 การขยายธุรกิจสำหรับการตลาพาณิชย์ รวมพลังงานทางเลือก
1.3 การขยายเครือข่ายคลังเก็บผลิตภัณฑ์และศูนย์กระจายสินค้าเพื่อธุรกิจ Mobility
2.การลงทุนในกลุ่มธุรกิจ lifestyle วงเงิน 9,800 ล้านบาท สำหรับการขยายเครือข่ายร้านค้าปลีก การลงทุนในธุรกิจอื่นๆ เพื่อตอบโจทย์ lifestyle ลูกค้า เช่น Health & Wellness, Beauty, Digital Platform เป็นต้น
3.การลงทุนในกลุ่มธุรกิจ Global วงเงิน 9,500 ล้านบาท 4.เงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจและ/หรือชำระคืนเงินกู้ยืม(ถ้ามี) เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อกิจการของบริษัทฯและบริษัทย่อย วงเงิน 8,597 ล้านบาท
โดยการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การใช้เงินดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจหลักของบริษัทแต่อย่างใด
ขณะที่การรายงานการใช้เงินเพิ่มทุนจนถึง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 มีรายละเอียดดังนี้
ตามงบประมาณแผนการใช้เงินปี 2564-2568 วงเงินลงทุนรวม 53,497 ล้านบาท พบว่า เงินลงทุนในกลุ่มธุรกิจ Mobility วงเงิน 25,600 ล้านบาท มีการใช้ไปแล้ว 13,157 ล้านบาท ,การลงทุนในกลุ่มธุรกิจ lifestyle วงเงิน 9,800 ล้านบาท มีการใช้ไปแล้ว 3,719 ล้านบาท
การลงทุนในกลุ่มธุรกิจ Global วงเงิน 9,500 ล้านบาท มีการใช้ไปแล้ว 2,631 ล้านบาท
,เงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจและ/หรือชำระคืนเงินกู้ยืม(ถ้ามี) เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อกิจการของบริษัทฯและบริษัทย่อย วงเงิน 8,597 ล้านบาท มีการใช้ไปแล้ว 8,597 ล้านบาท รวมเป็นจำนวนที่ใช้ไปแล้วอยู่ที่ 28,104 ล้านบาท คงเหลือ 25,393 ล้านบาท