กำแพงเพชร - หนุ่มถือมีด-ขวานบุกบ้านหวังเคลียร์ใจเมียที่เลิกรากันมาได้หลายเดือน เจอปู่-ย่าห้ามปราม คลั่งคว้ามีดฟันเลือดท่วมอาการสาหัส ญาติเผยสาเหตุคิดว่าถูกกีดกันเรื่องลูกเมีย พบก่อนหน้านี้เคยถูกร้องถึงมูลนิธิปวีณาฯ มาแล้วครั้งหนึ่ง
วันนี้ (16 เม.ย.) ร.ต.อ.ปรัชญา ทาบ้านฆ้อง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกำแพงเพชร ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีเหตุทำร้ายร่างกายกันด้วยอาวุธมีด และขวาน มีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย ที่บ้านเลขที่ 115 ม.11 ต.ท่าขุนราม อ.เมืองกำแพงเพชร จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบลท่าขุนรามไปตรวจสอบเบื้องต้น ก่อนลงพื้นที่ไปสมทบในที่เกิดเหตุอีกครั้ง
เมื่อไปถึงพบว่าที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งตึกครึ่งไม้ อยู่ติดกับที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 11 ต.ท่าขุนราม บริเวณด้านข้างของตัวบ้านมีโต๊ะหินอ่อนตั้งอยู่ บริเวณพื้นข้างโต๊ะหินอ่อนมีรอยเลือดหยดเป็นทางตั้งแต่พื้นปูนด้านหน้าประตูทางเข้าไปจนถึงโต๊ะกินข้าว
ชาวบ้านได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ผู้ก่อเหตุที่เข้ามาบุกทำร้ายผู้คนในบ้านหลังนี้คือนายไพบุญ บุญประเสริฐ อายุ 48 ปี เป็นอดีตสามีของนางสาวรุ่งนภา ศรีวิชัยจันทร์ อายุ 23 ปี อาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวกับผู้เป็นปู่และย่า โดยมีลูกชายวัย 3 เดือนเศษกับนายไพบุญผู้ก่อเหตุ 1 คน
ในเวลาประมาณ 12.50 น. ขณะที่มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งกำลังนั่งรับประทานอาหารกันอยู่ในบริเวณบ้านของนายภูริชัย ใจตุ่น ผู้ใหญ่บ้าน ที่อยู่ติดกับบ้านเกิดเหตุ ได้สังเกตเห็นนายไพบุญ (ผู้ก่อเหตุ) สะพายกระเป๋าสีน้ำตาล ในมือถือมีดปลายแหลม ยาวประมาณ 5 นิ้ว และขวาน เดินเข้าเปิดประตูด้านข้างของตัวบ้าน ซึ่งตรงนั้นเป็นที่พักที่นางสาวรุ่งนภาสำหรับใช้เลี้ยงลูกน้อย และขณะนั้นนางสาวรุ่งนภากำลังให้นมลูกชายอยู่พอดี
เมื่อเห็นนายไพบุญเปิดประตูเข้าไปและถืออาวุธด้วย นางสาวรุ่งนภาจึงตกใจและอุ้มลูกวิ่งไปหานายชุม ยะเดช และนางสีนวน ศรีวิชัยจันทร์ ซึ่งเป็นปู่และย่าของนางสาวรุ่งนภา จากนั้นนายไพบุญที่กำลังอยู่ในอาการเหมือนคลุ้มคลั่ง ได้พูดเสียงอันดังว่า “กีดกันกูนักใช่ไหม” ก่อนใช้มีดปลายแหลมที่ถือมาฟันไปที่ศีรษะของนายชุมจนเลือดไหลอาบเต็มใบหน้า จากนั้นได้มีการยื้อยุดฉุดกระชากกันไปมาจนทำให้นายชุม ผู้เป็นปู่ของนางสาวรุ่งนภา พลาดท่าถูกนายไพบุญใช้อาวุธมีดฟันซ้ำที่ลำตัว และใบหน้าหลายแผล ส่วนนางสีนวนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยมีรอยถลอกบริเวณขาและแขนจากการเข้าห้ามปราม
ขณะที่นายไพบุญ ผู้ก่อเหตุ ได้มีชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์และเสียงร้องโวยวายช่วยกันจับตัวนายไพบุญ (ผู้ก่อเหตุ) เอาไว้ได้อย่างสะบักสะบอมเนื่องจากผู้ก่อเหตุขัดขืนต่อสู้ จากนั้นได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบลท่าขุนราม และผู้นำชุมชนให้รับทราบ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาทำการจับกุมตัวนายไพบุญไปสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชรเพื่อสอบสวนหาเหตุจูงใจในการก่อเหตุในครั้งนี้พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วนนายชุม และนางสีนวน ผู้บาดเจ็บ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ทำบาดแผลเบื้องต้นก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลกำแพงเพชรเพื่อให้แพทย์ทำการรักษาต่อไป โดยพบว่านายชุมมีอาการค่อนข้างสาหัสจากการถูกของมีคมฟัน และแทงบริเวณศีรษะและลำตัว เบื้องต้นแพทย์ได้แจ้งว่าอาการปลอดภัยแล้ว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันนายไพบุญได้เคยโทรศัพท์และส่งข้อความมาข่มขู่นางสาวรุ่งนภา (อดีตภรรยา) หลายข้อความ ในทำนองที่ว่าถูกทางนางสาวรุ่งนภา และปู่ย่าของนางสาวรุ่งนภา รวมหัวกลั่นแกล้งกีดกันอะไรบางอย่าง และข่มขู่ว่าถ้าไม่มาพูดคุยกันไม่รับสายจะบุกมาถึงบ้านและจะฆ่าให้ตาย
นางสาวรุ่งนภา ศรีวิชัยจันทร์ อดีตภรรยานายไพบุญ กล่าวว่า ได้แยกทางกับนายไพบุญ อดีตสามีมาหลายเดือนแล้ว เนื่องจากนายไพบุญมักจะทำร้ายร่างกายตนอยู่บ่อยครั้ง ก่อนหน้านั้นตนไปอาศัยอยู่บ้านอดีตสามีแบบไปๆ มาๆ สุดท้ายแล้วตนต้องมาอยู่ที่บ้านหลังนี้เพราะทนไม่ได้ที่ต้องถูกทำร้ายบ่อยครั้ง จนไม่อยากจะไปอยู่กับเขาอีกแล้ว
“ยอมรับว่าก่อนหน้านี้นายไพบุญก็เคยมาหาฉันและลูกบ้างเป็นบางครั้ง ถ้ามาดีๆ ฉันไม่ว่าแต่ครั้งนี้มีการข่มขู่ต่างๆ นานาจึงไม่อยากจะให้มาเพราะเกรงว่าฉันกับปู่ย่าจะไม่ปลอดภัย อีกอย่าง นายไพบุญมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดทั้งเสพทั้งค้าซึ่งฉันอยู่กับนายไพบุญมากว่า 3 ปี ทราบเรื่องนี้ดี จึงอยากจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีนายไพบุญให้ถึงที่สุดเนื่องจากเข้ามาทำร้ายปู่และย่าของฉันถึงในบ้านซึ่งต่อไปถือว่าเป็นอันตรายต่อคนในบ้านหลังนี้เป็นอย่างมาก และฉันก็ไม่ทราบว่านอกจากมีดที่เข้ามาทำร้ายภายในบ้านหลังนี้แล้วในรถของเขาจะมีปืนอีกหรือไม่“
ทั้งนี้ นายไพบุญ บุญประเสริฐ เคยก่อเหตุมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2566 ซึ่งช่วงนั้นผู้เสียหายได้เคยไปร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรีมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยมีบันทึก พม.จังหวัดกำแพงเพชร ระบุว่า วันที่ 31 ตุลาคม 2566 เวลา 18.00 น. สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกำแพงเพชร สถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกำแพงเพชร ร่วมกันให้ความช่วยเหลือตามที่ได้รับการประสานจากมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี กรณีของหญิง อายุ 22 ปี ได้แจ้งร้องทุกข์มาทางเฟซบุ๊ก เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือตนและบุตรชาย อายุ 2 เดือน ซึ่งถูกสามีที่มีพฤติกรรมเสพยาและค้ายาเสพติด ทำร้ายร่างกายและขู่จะฆ่า
สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกำแพงเพชรได้ประสาน สภ.เมืองกำแพงเพชร เพื่อให้นำกำลังเข้าให้การช่วยเหลือ นำตัวผู้ถูกกระทำและบุตรชายออกมาจากบ้านผู้กระทำและพาเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และดำเนินการนำผู้ถูกกระทำและบุตร อายุ 2 เดือน ไปที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อขอรับความคุ้มครองสวัสดิภาพ