พระนครศรีอยุธยา - สยอง! หนุ่มวัย 42 ป่วยทางจิต นั่งสมาธิหลับตาบนรางรถไฟ ก่อนจะถูกรถไฟชนขยี้ร่างเละชิ้นส่วนกระจัดกระจายดับสยอง บริเวณช่องทางเดินรถไฟก่อนถึงปิดกั้นสัญญาณไฟ วัดพนัญเชิง ในพื้นที่ ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
เวลา 20.30 น. วันนี้ (5 เม.ย.) พ.ต.ท.ธงชัย แก้วจรูญ สว.(สอบสวน) สภ.พระนครศรีอยุธยา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุ รถไฟเฉี่ยวชนคนเสียชีวิต เหตุเกิดช่องทางเดินรถไฟก่อนถึงปิดกั้นสัญญาณไฟ วัดพนัญเชิง ในพื้นที่ ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จึงไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา และกำลังเจ้าหน้าที่สมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา
ในที่เกิดเหตุบนรางรถไฟในช่องชานชาลาที่ 3 พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายอภิสิทธิ์ ปุ่มโคกกรวด อายุ 42 ปี สภาพร่างกายแหลกเหลวไม่มีชิ้นดี ชิ้นส่วนกระจัดกระจายเป็นที่น่าสยดสยองเกลื่อนรางรถไฟ ส่วนรถไฟเป็นขบวนรถเร็ว ขบวนที่ 102 ต้นทางเชียงใหม่ ปลายทางกรุงเทพฯ ได้จอดเลยจุดเกิดเหตุไปประมาณ 50 เมตร ก่อนเคลื่อนขบวนรถเข้ากรุงเทพฯ
สอบถาม น.ส.ชนิศร กอบสันเทีย อายุ 43 ปี พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 60/3 ม.2 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เล่าด้วยน้ำตาว่า ผู้ตายเป็นลูกเลี้ยง และเมื่อช่วงเย็นยังเห็นผู้ตายนั่งอยู่ตรงประตูน้ำซึ่งอยู่ใกล้กับรางรถไฟ โดยมีลักษณะนั่งสมาธิ หลับตา ตนและพ่อของผู้ตายยังพูดกันเลยว่าไปนั่งสมาธิอะไรตรงนั้น จากนั่นช่วงค่ำชาวบ้านบอกว่ามีคนถูกรถไฟชนตาย จึงมาดูก็ตกใจถึงกับเข่าทรุด เพราะ จำลักษณะผู้ตาย ทรงผม รอยสักได้ว่าเป็นลูกเลี้ยง แต่ไม่ทราบว่าไปนั่งบนรางรถไฟตอนไหน ซึ่งลูกเลี้ยงนั้นมีอาการทางสมอง ต้องรักษากินยาประจำ ส่วนทางบ้านไม่ได้ติดใจการเสียชีวิต
ด้าน นายศรายุทธ มีสมปราชญ์ พนักงานรักษาความปลอดภัย สถานีรถไฟพระนครศรีอยุธยา เบื้องต้นทราบจาก พขร.รถไฟ แจ้งว่าพบคนนั่งอยู่บนรางรถไฟ และได้เฉี่ยวชนคนที่นั่งหันหลังอยู่กลางรางรถไฟ ให้มาตรวจสอบ มาเจอในสภาพดังกล่าว โดยรถไฟดังกล่าวเป็นรถไฟขขบวนรถเร็ว มาจากจังหวัดเชียงใหม่แล้วมาจอดที่ชานชาลาสถานีรถไฟอยุธยา ออกเมื่อตอน 20.00 น เพื่อมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ พอถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นช่วงโค้งและรถไฟใช้ความเร็วทำให้มาถึงก็ชนพอดี ประกอบกับความมืดในตอนกลางคืน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเชิญตัวญาติผู้เสียชีวิตไปสอบปากคำเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยญาติไม่ติดใจการเสียชีวิต ก่อนจะให้ทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอยุธยา นำร่างผู้เสียชีวิตส่งมอบให้ญาติ นำร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาตามประเพณีต่อไป
