กาฬสินธุ์ - ผู้รับเหมาในกาฬสินธุ์กว่า 50 รายเตรียมแจ้งความเอาผิดบริษัทใหญ่ ที่ลงงานในพื้นที่ในโครงการก่อสร้างระบบท่อระบายน้ำแก้ปัญหาน้ำท่วมเมืองกาฬสินธุ์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง งบ 148 ล้านบาท และโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแก่งดอนกลาง ต.กาฬสินธุ์ งบประมาณ 39 ล้านบาท ระบุรับช่วงงานมาแต่เบิกเงินไม่ได้ เดือดร้อนไปหาเงินกู้ทั้งในระบบและนอกระบบมาจ่ายค่าแรงลูกน้อง เข้าเนื้อคนละ 5-10 ล้านบาท
จากกรณีคณะกรรมการธรรมาภิบาล จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกับ ป.ป.ท.เขต 4 ลุยสอดส่องสืบโครงการรับเหมาก่อสร้างระบบท่อระบายน้ำแก้ปัญหาน้ำท่วมเมืองกาฬสินธุ์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง งบ 148 ล้านบาท “สร้าง 7 ชั่วโคตรยังไม่เสร็จ” ร้องเรียนหลายครั้งแล้วก็ยังสร้างไม่เสร็จ แม้กรมโยธาฯ ขยายเวลาให้จนใกล้ครบสัญญาแล้ว นอกจากนี้ยังได้ร่วมกันตรวจสอบโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแก่งดอนกลาง งบ 39 ล้านบาท ซึ่งพบว่าเป็นผู้รับเหมารายเดียวกัน ด้านชาวบ้านแฉซ้ำตั้งแต่ร้องเรียนทั้ง 2 โครงการ ไม่เคยเห็นบริษัทรับเหมามาทำงานก่อสร้างต่อ ทำให้เกิดปัญหาสะสมเรื้อรังมานานกว่า 5 ปี ส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจเมืองกาฬสินธุ์พังยับกว่า 750 ล้านบาท ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ล่าสุด วันที่ 24 มีนาคม 2567 นายกอบโชคชีพ โพธิ์สอน รองประธานสภา อบต.สำราญ อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ ในนามเครือข่ายยุติธรรมภาคประชาชน จ.กาฬสินธุ์ และผู้แทน หจก.ฮ.การช่าง แจ้งว่าได้รับการร้องเรียนจากผู้รับเหมาหลายราย ทั้งรายย่อย รายใหญ่ ที่เข้ามารับช่วงทำงานรับเหมาโครงการก่อสร้างระบบท่อระบายน้ำแก้ปัญหาน้ำท่วมเมืองฯ และโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องตลิ่งริมแก่งดอนกลางดังกล่าว ว่าที่ผ่านมาประสบปัญหาเบิกเงินค่าจ้างตามงวดงานกับบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ทำสัญญารับจ้างกับกรมโยธาธิการและผังเมือง
โดยไม่สามารถเบิกเงินก้อนตามงวดงานได้เลย บางครั้งขอเบิก 5-6 แสนบาท ตัวแทนบริษัทซึ่งเป็นนายจ้างจ่ายให้แค่ 2-3 หมื่นบาท ทำให้ผู้รับเหมาเหล่านี้เดือดร้อนหนัก ต้องนำที่ดินไปจำนองกับสถาบันการเงินและนายทุนนอกระบบ เพื่อมาจ่ายค่าแรงงานลูกน้องและจ่ายค่าวัสดุอุปกรณ์
นายกอบโชคชีพกล่าวต่อว่า ปัญหาดังกล่าวเรื้อรังมานาน ผู้รับเหมารายย่อย รายใหญ่หลายรายเคยไปตามทวงเงินถึงสำนักงานของบริษัทฯ ก็ได้รับการปฏิเสธทุกครั้ง บอกปัดว่างานก่อสร้างยังไม่เสร็จจะมาเบิกเงินได้ยังไง ทั้งๆ ที่ไปขอเบิกตามงวดงาน ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขและข้อปฏิบัติที่ทราบกันโดยทั่วไป แต่ตัวแทนของบริษัทฯ ก็เล่นแง่ที่จะไม่จ่ายค่าจ้าง ซึ่งสถานการณ์เป็นอย่างนี้สะสมเรื่อยมา จนต้องหาทางออกด้วยการนำโฉนดที่ไร่ที่นาของตนเองและญาติไปจำนองกับแหล่งเงินทุน เข้าเนื้อคนละไม่น้อยกว่า 5-10 ล้านบาท บางรายก็ขาดทุนย่อยยับเพราะไม่มีเงินหมุนเวียน
เช่น หจก.ฮ.การช่างเอง ก็แทบหมดเนื้อหมดตัว รถที่ใช้งานถูกยึดไป 3 คัน ธุรกิจรับเหมาย่ำแย่ ทั้งลูกพี่ ลูกน้องน้ำตาตกในไปตามๆ กัน ได้งานทำหวังจะมีรายได้เลี้ยงครอบครัว แต่กลับตาลปัตรเป็นเสียอย่างนี้ โดยมีสาเหตุมาจากสาเหตุเดียวคือบริษัทใหญ่เบี้ยวค่าจ้างผู้รับเหมาในพื้นที่
ทั้งนี้ ทราบมาว่าเมื่อวันที่ 19 มี.ค. 67 ที่ผ่านมายังได้มีผู้รับเหมากลุ่มหนึ่งมาจาก จ.บุรีรัมย์ เข้าไปร้องเรียนต่อคณะกรรมการธรรมาภิบาล จ.กาฬสินธุ์ และผู้อำนวยการ ป.ป.ท.เขต 4 ว่าบริษัทดังกล่าวค้างค่าจ้างตามงวดงานหลายล้านบาทอีกด้วย ซึ่งเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งในจำนวนหลายรายที่ผู้รับเหมาได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาบริษัทใหญ่ไม่จ่ายเงินตามงวดงาน และที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 62-67 น่าจะมีผู้รับเหมาประสบปัญหาเดียวกันไม่น้อยกว่า 50 รายทีเดียว ซึ่งทราบว่าขณะนี้กำลังรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้อง และรวมตัวกันไปแจ้งความเอาผิดบริษัท ฐานฉ้อโกงแรงงาน ตามมาตรา 344