“ปลัด มท.” ประเดิมตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนฯ “แก้ปัญหาความยากจน” ร่วม กมธ.ลดความเหลื่อมลํ้า วุฒิสภา ผลักดัน สร้างฝายชะลอนํ้าแกนดินซีเมนต์ ทั่วประเทศ รับลูกตั้ง “กรมโยธาฯ” ในกำกับ มท.1 แม่งานผุดแบบมาตรฐาน-ราคากลางฝายฯ ก่อนส่ง อปท.-หน่วยงานรัฐ ใช้อ้างอิงจัดทำงบประมาณ
วันนี้ (11 ต.ค.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เมื่่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงนามในคำสั่งกระทรวงมหาดไทย แต่งตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนการแก้ปัญหาความยากจน ด้วยกลยุทธ์การสร้างฝายชะลอนํ้าแกนดินซีเมนต์
มี นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาชุมชนและส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นั่งประธาน รวมกับ อธิบดีกรมฯ หรือผู้แทน ในสังกัด
คณะทำงานดังกล่าว เกิดขึ้นภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย มอบหมายให้ปลัดกระทรวงฯ พิจารณาความเหมาะสมเกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมลํ้าฯ
“มท.1 หารือกับคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การแก้ไขปัญหาความยากจน และลดความเหลื่อมลํ้า วุฒิสภา โดยมอบหมายให้ กรมโยธาธิการและผังเมือง ที่อยู่ในกำกับ มท.1 เป็นแม่งาน รับผิดชอบด้านการจัดทำแบบมาตรฐานและราคากลางฝายชะลอนํ้าแกนดินซีเมนต์ ดังกล่าว”
เพื่อให้ส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สามารถใช้ในการอ้างอิงเป็นแบบมาตรฐาน และราคากลางในการจัดตั้งงบประมาณและการดำเนินการทางพัสดุต่อไปได้
ประกอบกับ กมธ.ได้แต่งตั้งคณะทำงานเชิงนโยบาย 1 ชุด เพื่อทำงานร่วมกัน มีองค์ประกอบหน้าที่และอำนาจพิจารณาแนวทางการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาความยากจนฯ ในพื้นที่นอกเขตชลประทานร่วมกัน
พิจารณาเกี่ยวกับกฎ ระเบียบ หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาฯ กำหนดแบบมาตรฐานและราคากลางการสร้างฝายฯ
เพื่อให้ส่วนราชการ หน่วยงาน อปท. หน่วยงานอื่นของรัฐ และประชาชน สามารถดำเนินการได้อย่างถูกต้อง สะดวก และรวดเร็ว
กมธ.ชุดดังกล่าว ได้ผลักดันโครงการก่อสร้างฝายดินซีเมนต์ อันจะเกิดประโยชน์เพื่อชะลอการไหลของน้ำและยกระดับน้ำให้สูงขึ้น เพียงพอต่อการใช้อุปโภค-บริโภค และน้ำการเกษตรของประชาชน
เป็นการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง สร้างความชุ่มชื่นให้กับผืนดินและป่า
โครงการดังกล่าว ยังเคยถูกผลักดัน ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศตามงบประมาณแผนพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ปี 2564-2565
รัฐบาลชุดเดิมได้จัดสรรงบประมาณ ตลอดโครงการผ่านการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) พ.ศ. 2565
และมีการปิดโครงการ หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาเบิกจ่าย เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา
พบว่า หน่วยงานรัฐ เสนอก่อสร้างฝายชะลอน้ำแกนซอยซีเมนต์ โดยส่วนใหญ่กำหนดราคากลาง ระหว่าง 500,000-1,143,600 บาท.