ราชบุรี - กัน จอมพลัง พาทหารหญิงรับใช้มาฟังคำพิพากษาที่ถูกเจ๊นุช ทำร้ายร่างกายนานกว่า 2 ปี จนครอบครัวทนไม่ไหวนำเรื่องเข้าร้องทุกข์กับกัน จอมพลัง และนำมาสู่ความช่วยเหลือ จนในที่สุดเจ๊นุชกับเพื่อนชายคนสนิทถูกจับใน 7 ข้อหา ศาลตัดสินจำคุก 13 ปี 5 เดือน ส่วนเพื่อนชายคนสนิท จำคุก 4 ปี 1 เดือน พร้อมชดใช้เงินอีกกว่า 300,000 บาท
จากคดีที่เจ๊นุช หรือ ส.ต.ท.หญิงกรศศิร์ บัวแย้ม ผบ.หมู่ กก.4 บก.ส.1 ร่วมกับเพื่อนชายคนสนิททำร้ายร่างกาย น.ส.เอ ทหารหญิง ซึ่งเป็นทหารรับใช้นานกว่า 2 ปี จนครอบครัวทนไม่ไหวนำเรื่องเข้าร้องทุกข์กับกัน จอมพลัง และนำมาสู่ความช่วยเหลือ จนในที่สุดเจ๊นุชกับเพื่อนชายคนสนิทถูกจับในข้อหา 7 ข้อหา 1.ค้ามนุษย์ 2.พ.ร.บ.แรงงาน 3.พ.ร.บ.พกพาอาวุธปืน 4.ความผิดต่อเสรีภาพ 5.ความผิดต่อร่างกาย 6.บังคับใช้แรงงาน และ 7.ร่วมกันทำร้ายร่างกายทั้งสาหัสและไม่สาหัส โดยอัยการได้สั่งฟ้องไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2565 นั้น
ล่าสุด วันนี้ (14 มี.ค.) กัน จอมพลัง ได้พา น.ส.เอ ทหารหญิงรับใช้ พร้อมทนายโรส และญาติของ น.ส.เอ มาฟังคำพิพากษาที่ศาล จ.ราชบุรี ซึ่งใช้เวลาในการฟังคำพิพากษานานกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนที่กัน จอมพลัง พร้อมทนายโรส และน้องเอ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากที่รอคอยมานานเกือบ 2 ปี วันนี้ศาลพิพากษามาแล้วให้จำเลยที่ 1 คือเจ๊นุช จำคุก 13 ปี 5 เดือน ส่วนเพื่อนชายคนสนิท จำคุก 4 ปี 1 เดือน
หลังจากนี้ทางทางทนายโรสจะประสานกับทางอัยการ จะให้ศาลได้พิจารณาโทษ ซึ่งศาลท่านคงมีดุลพินิจของท่าน แต่ทางน้องเอ กับครอบครัวคงจะใช้สิทธิของเขาต่อในเรื่องของโทษ เนื่องจากสิ่งที่น้องนั้นโดนมาเยอะและจดจำไปตลอดชีวิต แต่จะใช้สิทธิที่มีอยู่เพื่อดำเนินการเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อไป ส่วนเรื่องของจมูกที่หักและหายใจได้ข้างเดียวนั้นได้รับการดูแลจากคุณเซปิง และคุณหนุ่มกรรชัย จนสามารถทำให้จมูกกลับมาหายใจได้ปกติ
ด้านทนายโรส บอกว่า ส่วนคำพิพากษาจะเป็นไปตามที่คุณกัน จอมพลัง บอก แต่ในส่วนของการชดใช้นั้น ศาลสั่งให้จำเลยที่ 1 ได้ชดใช้เป็นจำนวนเงิน 365,620 บาท ส่วนจำเลยที่ 2 ศาลสั่งให้ชดใช้ร่วมกับจำเลยที่ 1 เป็นจำนวนเงิน 350,616 บาท ส่วนที่ว่าจะเพียงพอกับสิ่งที่น้องเขาโดนมาหรือรักษาตัวไปนั้นขอให้ทุกท่านคิดเอาเอง ซึ่งทางน้องจะมีการอุทธรณ์ตามสิทธิที่เรามี
ส่วนข้อหาที่ถูกพิพากษาในวันนี้ คือ จำเลยที่ 1 และ 2 ร่วมกันทำร้ายร่างกายให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ ร่วมกันทำร้ายร่างกายให้ได้รับอันตรายสาหัส ส่วนจำเลยที่ 1 เจ๊นุช จะมีข้อหาเพิ่มคือ กรรโชกทรัพย์ และข่มขืนใจ ส่วนจำเลยที่ 2 นั้นมีข้อหาเพิ่มคือพกพาอาวุธ และไม่จ่ายค่าจ้างตามกฎหมาย ส่วนข้อหาค้ามนุษย์นั้นไม่เข้าข่ายความผิด แต่ต้องอุทธรณ์
ส่วน น.ส.เอ บอกว่าตอนแรกรู้สึกกังวลว่าคำพิพากษาจะออกมายังไง แต่เมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้วคงจะต้องสู้ต่อไป ที่ผ่านมาโดนมาเยอะมาก ส่วนเรื่องคดีความจะเดินหน้าสู้ต่อไป แต่ในความรู้สึกนั้นอโหสิกรรมให้ แต่ในเรื่องของคดีความต้องสู้กันต่อไป และจะทำให้ดูเป็นตัวอย่างว่ามนุษย์คนหนึ่งไม่สมควรที่จะโดนอะไรแบบนี้
ส่วนชีวิตประจำวันตอนนี้ทำกล้วยฉาบขายเพราะตอนนี้อยู่ในช่วงคุ้มครองพยานของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งมาถึงวันนี้อยากขอบคุณผู้สื่อข่าวที่ช่วยนำเสนอข่าวและขอบคุณกัน จอมพลัง ที่ช่วยเหลือทุกอย่าง พร้อมกับนำพวงมาลัยมาก้มกราบคุณกัน และไม่อยากให้ใครที่เป็นมนุษย์ได้พบกับเหตุการณ์แบบนี้อีก จากที่เคยอยู่ในความมืดไม่คิดว่าชีวิตจะมาพบกับแสงสว่าง จนทำให้มาพบกับคุณกัน
