MGR Online - ส.ต.ท.หญิง สังกัดตำรวจสันติบาล 1 ผู้ต้องหาทำร้ายทารุณอดีตทหารหญิง โร่มอบตัวแล้ว โชว์ใบรับรองแพทย์ อ้างป่วยควบคุมตัวเองไม่ได้ ด้าน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ สั่งดำเนินคดีเฉียบขาด ให้ต้นสังกัดฟันวินัย ผลสืบสวนพบเรียกค่าฝากเข้าทหาร 5 แสน แต่ยังจ่ายไม่ครบ จึงหักจากเงินเดือน และบังคับทำงานรับใช้ที่บ้าน
วันนี้ (20 ส.ค.) ที่ สภ.เมืองราชบุรี ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม ผบ.หมู่ กก.4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 ผู้ต้องหา ทำร้ายร่างกายอดีตทหารหญิงรายหนึ่ง ได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี พร้อมแสดงใบรับรองแพทย์ อ้างว่า ขณะเกิดเหตุควบคุมตัวเองไม่ได้ และป่วยรักษาตัวมาประมาณ 2 ปีแล้ว
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ ผู้ต้องหาว่า “เป็นข้าราชการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการบังคับใช้แรงงานหรือบริการ โดยการข่มขืนใจผู้อื่นให้ทำงานหรือให้บริการโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของบุคคลนั้นเอง หรือผู้อื่น โดยเป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจาก หรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยวกักขัง จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ ซึ่งบุคคลใด โดยข่มขู่ ใช้กำลังบังคับ ลักพาตัว ฉ้อฉล หลอกลวง ใช้อำนาจโดยมิชอบ ใช้อำนาจครอบงำบุคคลด้วยเหตุที่อยู่ในภาวะอ่อนด้อยทางร่างกาย จิตใจ การศึกษา หรือทางอื่นใดโดยมิชอบ ขู่เข็ญว่าจะใช้กระบวนการทางกฎหมายโดยมิชอบ หรือโดยให้เงินหรือผลประโยชน์อย่างอื่น แก่ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลบุคคลนั้น เพื่อให้ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล ให้ความยินยอมแก่ผู้กระทำความผิด ในการแสวงหาประโยชน์จากบุคคลที่ตนดูแล อันเป็นความผิดฐาน ค้ามนุษย์ และทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ (ความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 มาตรา 6, มาตรา 6/1, มาตรา 13 และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295)
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อติดตามคดีดังกล่าว เปิดเผยว่า คดีนี้เป็นคดีที่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ดังนั้น จึงได้กำชับให้มีความละเอียดรอบคอบในการรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งเร่งรัดให้มีการดำเนินการให้ความช่วยเหลือกับเหยื่อให้ได้รับความยุติธรรม ในกรณีของตัวตำรวจหญิงซึ่งได้มอบตัวแล้วนั้น จะดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเด็ดขาดและไม่มีการยกเว้น นอกจากนี้จะให้ทางต้นสังกัดพิจารณาโทษทางวินัยเพื่อมิให้เกิดการกระทำผิดในลักษณะเช่นนี้อีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากกรณีมีอดีตทหารหญิงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นนายจ้างของตนบังคับใช้แรงงานดูแลรับใช้ และทำร้ายร่างกาย เช่น ถูกตบตีตามร่างกาย ถูกเครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตตามร่างกาย ใช้ไม้หน้าสามตีที่ใบหน้า เป็นต้น เหตุเกิดในพื้นที่จังหวัดราชบุรี
จากการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน พบว่า ผู้ก่อเหตุคือ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม อายุ 43 ปี ผบ.หมู่ กก.4 บก.ส.1 และจากการสอบสวนปากคำ น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย ทราบว่าตนเองรู้จักกับผู้ต้องหามาเป็นเวลาหลายปี โดยก่อนหน้านี้ตนได้มาช่วยผู้ต้องหาทำงานที่ร้านกาแฟ ก่อนจะปิดตัวลงในภายหลัง เนื่องจากขายไม่ดี
ต่อมาผู้ต้องหาแจ้งว่าจะฝาก น.ส.เอ เข้ารับราชการทหาร โดยเรียกเงินค่าดำเนินการ จำนวน 5 แสนบาท ซึ่งตนนั้นได้จ่ายให้แล้วบางส่วน เหลือยอดหนี้ที่ผู้ต้องหาต้องการอีก 240,000 บาท โดยได้หักออกจากเงินเดือนหลังเข้ารับราชการแล้ว เหลือเพียงเดือนละ 3,000 บาทต่อเดือน จากนั้นผู้ต้องหาได้ย้าย น.ส.เอ ไปช่วยราชการ และยังบังคับให้ น.ส.เอ มาทำงานอยู่ที่บ้านของผู้ต้องหา โดยทำหน้าที่ทำความสะอาดบ้าน ขับรถ ดูแลเรื่องอาหารการกิน และอื่นๆ ตามที่ผู้ต้องหาสั่ง เมื่อ น.ส.เอ ทำสิ่งใดไม่ถูกใจ ก็จะถูกผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการทุบตีตามร่างกาย ใช้ไม้หน้าสามตีตามเนื้อตัว ใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตตามร่างกาย ต่อมาผู้ต้องหาได้บังคับให้ น.ส.เอ ลาออกจากทหาร และขู่ว่าถ้าไม่ทำตามจะทำร้ายร่างกายอีก น.ส.เอ จึงยื่นหนังสือลาออกจากราชการ เมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา แต่ผู้ต้องหายังบังคับและทำร้ายร่างกาย น.ส.เอ เช่นเดิม ต่อมา น.ส.เอ ได้ขอความช่วยเหลือจากทางบ้านเพื่อให้พาเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาจนถึงที่สุด