ลำปาง - เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ พอใจผลคืบหน้าปฏิบัติการค้นหาอัฐินักบินอเมริกัน หลังถูกนักบินไทยยิงตกบนดอยฝรั่ง เมืองลำปาง สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ย้ำภาพรวมถือว่าสำเร็จ ตอกย้ำสัมพันธ์มิตรประเทศ 190 ปี
ตลอดช่วงเช้าวันนี้ (15 ก.พ. 67) Mr. โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ลิสา เอ. บูเจนนาส กงสุลใหญ่ สถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา เชียงใหม่ พร้อมคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ดูความคืบหน้าและให้กำลังใจทีมค้นหาอัฐิของนักบินสหรัฐอเมริกาที่ถูกยิงตกบริเวณดอยฝรั่ง ต.พิชัย จ.ลำปาง สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง
โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง นายอำเภอเมืองลำปาง จนท.อุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพต เจ้าของพื้นที่ รวมถึงสื่อมวลชน ร่วมเดินเท้าขึ้นบนดอยฝรั่ง ซึ่งเป็นเนินสูงชัน ระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางไปกลับกว่า 2 ชั่วโมง
โอกาสนี้ Mr. โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้กล่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกในภารกิจนำผู้สูญหายกลับมาตุภูมิ ซึ่งวันนี้ได้ก้าวเข้าใกล้การบรรลุเป้าหมายในการหาข้อสรุปให้กับครอบครัวของผู้ที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักก็คือนักบินตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งท้ายสุดแล้วภารกิจนี้จะได้ข้อสรุปให้กับครอบครัว
และวันนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ได้มาหวนรำลึกถึงผู้ที่จากไปด้วยความอาลัยและเคารพ ซึ่งก็ตรงกันกับนโยบายของไทยที่บอกว่าเราจะไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง ไม่ว่าบรุษหรือสตรีที่สละชีวิตของตนในความขัดแย้งต่างๆ ที่ผ่านมา ซึ่งทางสหรัฐฯ ต้องการนำพวกเขากลับสู่มาตุภูมิ กลับคืนสู่ครอบครัว
“สิ่งที่ทำอยู่นี้จึงเป็นค่านิยมที่มีร่วมกันของทั้งสองประเทศ เฉกเช่นเดียวกันกับที่สหรัฐฯ และไทยที่จะร่วมมือกันที่จะกอบกู้ซากเรือหลวงสุโขทัยแบบจำกัดที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ที่อ่าวไทย”
ขณะเดียวกัน วันนี้ยังเป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์ไทยกับสหรัฐฯ ที่มีมายาวนาน ซึ่งปีที่ผ่านมาก็มีการฉลองครบรอบ 190 ปี อย่างเป็นทางการไปแล้ว ซึ่งไทยเป็นเพื่อนคนแรกของสหรัฐฯ ในทวีปเอเชีย และในวันนี้ที่ทีมงานได้เข้ามาทำงานกับชาวลำปางและได้รับความร่วมมืออย่างดีรู้สึกประทับใจมาก
ส่วนความคืบหน้าในการค้นหานั้นถือว่ามีความคืบหน้าไปในทางที่ดี แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าเจออะไร เพราะต้องนำสิ่งที่พบทั้งหมดส่งไปห้องปฏิบัติการของสำนักงาน DPAA ที่เมืองโฮโนลูลู รัฐฮาวาย เพื่อการตรวจพิสูจน์ก่อน แต่ขณะนี้ภาพโดยรวมถือว่าประสบความสำเร็จและมีความคืบหน้าไปด้วยดี ส่วนจะทำการค้นหายาวนานแค่ไหนนั้นต้องดูความจำเป็น หากจะต้องค้นหาต่อต้องดูที่หลักฐานที่ได้ว่าจำเป็นต้องหาต่อหรือไม่
ด้านนายชนาธิป แสมแย้ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า ดีใจที่ได้มีส่วนร่วมกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่มาค้นหาผู้เสียชีวิตจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งก็ผ่านมา 80 ปีแล้ว ทางจังหวัดลำปาง พี่น้องชาวลำปางยินดีให้การสนับสนุนจนกว่าภารกิจจะเสร็จสิ้นและได้พาทุกคนกลับบ้าน
นายภานุพงศ์ เปล่งขำ หลานชาย เรืออากาศตรี (น.ท.) คำรบ (ทองคำ) เปล่งขำ ผบ.หมู่บินขับไล่ที่ 15 ซึ่งเดินทางมาร่วมกับภารกิจนี้ด้วย บอกว่า หากถามความรู้สึกส่วนตัวในฐานะหลานชายนักบินที่ทำภารกิจนี้ก็รู้สึกภูมิใจในตัวของคุณตามาก เพราะทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว
ซึ่งขณะนั้นหากดูสมรรถนะของเครื่องบินรบไทยกับฝ่ายตรงข้ามถือว่าคนละชั้น ของไทยไม่พร้อมเลยและสมรรถนะต่ำ แต่คุณตาก็ใช้ทักษะที่เคยผ่านสงครามจริงมาแล้ว 2 ครั้ง และอาจจะด้วยภูมิประเทศบ้านของตัวเองด้วยทำให้เอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้ในสถานการณ์คับขันเช่นนั้น
ส่วนการมาค้นหานักบินผู้ที่เสียชีวิตครั้งนี้ ตนก็อยากให้เจอโดยเร็ว เพราะหากเป็นฝ่ายเราสูญเสีย เราก็คงอยากหาให้เจอและอยากให้พาเขากลับบ้านเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามเรื่องสงครามตนก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีกเพราะมีแต่ความสูญเสีย สงครามเป็นเพียงเรื่องผลประโยชน์