กาญจนบุรี - ผอ.สบอ.3 (บ้านโป่ง) กรมอุทยานฯ นำทีมลุยตรวจสิงโตสวนสัตว์เปิดชื่อดัง จ.กาญจน์ พบตาย 1 ตัว แนะขออนุญาตทำลายซาก
วันนี้ (31 ม.ค.) นายอนันต์ โพธิ์พันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) พร้อมด้วย นายมานะ เพิ่มพูล ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า และหัวหน้าชุดสายตรวจปราบปรามด้านสัตว์ป่า ส่วนกลาง น.ส.กนกวรรณ ตรุยานนท์ ผู้อำนวยการส่วนประสานความร่วมมือด้านทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า น.ส.ลักษณา ประสิทธิชัย นายสัตวแพทย์ประจำ สบอ.3 (บ้านโป่ง) รวมทั้งเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจปราบปรามด้านสัตว์ป่า สายที่ 2 ประจำจังหวัดกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบการครอบครองสัตว์ป่าควบคุม หรือซากสัตว์ป่าควบคุม ของบริษัท สวนสัตว์เปิด ซาฟารี ปาร์ค แอนด์ รีสอร์ท เลขที่ 40/2 หมู่ที่ 5 ต.หนองกุ่ม อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี โดยมีนายปิยะบุตร ประสพสุขโชคมณี อายุ 43 ปี เจ้าของเป็นผู้นำตรวจสอบ
โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบสัตว์ป่าควบคุม ตามใบรับแจ้งการครอบครองสัตว์ป่าควบคุมหรือซากสัตว์ป่าควบคุม ชั่วคราว ฉบับลงวันที่ 16 มีนาคม 2566 จำนวน 1 ชนิด คือ สิงโต (Panthera Leo) รวมจำนวนทั้งหมด 11 ตัว (เพศผู้ 5 ตัว เพศเมีย 6 ตัว) พบว่า สามารถตรวจสอบรูปพรรณของสิงโตได้ครบจำนวน 11 ตัว และสามารถสุ่มตรวจหมายเลขไมโครชิปได้ทั้งหมด 6 ตัว พบว่ามีหมายเลขไมโครชิปถูกต้อง ตรงตามบัญชีที่นายปิยะบุตร ประสพสุขโชคมณี เจ้าของได้แจ้งเอาไว้
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่คณะเจ้าหน้าที่ยังได้ทำการตรวจสอบสิงโต เพศเมีย ชื่อเทียร่า อีก 1 ตัว โดยก่อนหน้านี้สิงโตตัวดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการฝังไมโครชิปได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการตั้งท้อง ซึ่งขณะนั้นเจ้าของได้แจ้งการครอบครองเอาไว้แล้ว มาในวันนี้ เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) จึงได้ร่วมกับนายสัตวแพทย์ ประจำสวนสัตว์เปิดซาฟารี ปาร์ค แอนด์ รีสอร์ท จำกัด ร่วมกันดำเนินการฝังไมโครชิป หมายเลข 933-076-400-571-787 ให้สิงโตตัวดังกล่าว
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า ในจำนวนของสิงโตตามบัญชีการรับแจ้งสัตว์ป่าควบคุมดังกล่าว มีสิงโต เพศผู้ จำนวน 1 ตัว ชื่อ คาลีบ้า หมายเลขไมโครชิป 933-0764005-13601 ได้ตายลงตั้งแต่วันที่เจ้าของสวนสัตว์ได้แจ้งการครอบครอง
พนักงานเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งให้ นายปิยะบุตร ประสพสุขโชคมณี เจ้าของให้ดำเนินการแจ้งเปลี่ยนแปลงจำนวนสิงโตที่มีอยู่ให้ถูกต้อง และให้รีบขออนุมัติทำลายซากสิงโตตัวดังกล่าว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ประจำส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ทราบ ตามระเบียบของทางราชการ และเมื่อได้รับการอนุมัติแล้วจึงจะสามารถดำเนินการทำลายซากของสิงโตตัวดังกล่าวได้