เชียงราย – อ้างโดนแย่งมีด..หนุ่มรับจ้างตัดต้นไม้-กิ่งไม้ มอบตัว ตร.เชียงราย แล้ว หลังก่อเหตุซ้อมครูสาวอยู่เวรเฝ้าโรงเรียนวันหยุดเพียงลำพัง ทั้งเตะ-ต่อย จนได้รับบาดเจ็บปางตาย
วันนี้ (20 ม.ค.67) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย และอาสาสมาคมกู้ชีพธรรมนันท์เชียงราย ได้รับแจ้งมีเหตุคนถูกทำร้าย ภายในโรงเรียนบ้านโป่งเกลือ หมู่ 4 ต.ดอยลาน อ.เมืองเชียงราย จึงไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุเป็นอาคารเรียนระดับประถมศึกษาสูง 2 ชั้น
ด้านหน้าห้องเรียนพบนางอัจราภรณ์ ยศบุญ อายุ 41 ปี ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 อยู่ในชุดรำลองมีสภาพได้รับบาดเจ็บ เป็นแผลฟกช้ำตามลำตัวและใบหน้าจึงรีบนำส่งโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์อย่างเร่งด่วน
จากการสอบถามนักเรียนที่เข้าไปเล่นในโรงเรียนช่วงวันหยุด ทราบว่าครูอัจราภรณ์เข้าเวรที่โรงเรียนวันหยุดอยู่คนเดียว และจากการตรวจดูกล้องวงจรปิดก็พบคนร้ายเป็นชาย 1 คน ได้พยายามจะเข้าประชิดตัวครูอัจราภรณ์บริเวณชั้นล่างสุดของอาคาร แต่ครูอัจราภรณ์ถือของแข็งยาวทำท่าป้องกัน แต่สู้แรงฝ่ายชายที่บุกเข้าประชิดตัวไม่ได้ จึงเกิดการกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันขึ้นโดยฝ่ายชายมีทั้งต่อยและกระทืบ
เมื่อครูผู้หญิงหมดแรงนอนอยู่กับพื้นที่ยังพยายามจะลากไปข้างในแต่ถูกขัดขืนจึงใช้เท้าเตะไปอย่างแรง และลากต่อไปจนถึงห้องสุดท้ายของอาคาร เดชะบุญที่ได้มีผู้ขับรถยนต์เข้าไปในโรงเรียนพอดีทำให้คนร้ายถือมีดยาวออกมาข่มขู่อยู่พักหนึ่งก่อนจะวิ่งถือมีดยาวและหอบของวิ่งออกจากโรงเรียนไป
ด้านนายนิติธร อินธรรม อายุ 46 ปี ผู้ใหญ่บ้านโป่งเกลือ ที่เห็นภาพในกล้องวงจรปิดก็แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าบุคคลดังกล่าวชื่อว่านายนิรันดร์ อายุ 38 ปี ที่ไปรับจ้างตัดกิ่งไม้ในโรงเรียนเมื่อประมาณ 3 สัปดาห์ก่อน ทั้งนี้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะเสนอให้มีการเพิ่มครูที่จะเข้าเวรในวันหยุดเพื่อความปลอดภัยมากกว่าการให้ครูผู้หญิงอยู่ตามลำพัง
ล่าสุดมีรายงานว่าชายผู้ก่อเหตุได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.เมืองเชียงราย แล้ว ทราบชื่อคือนายนิรันดร์ อายุ 38 ปี ชาว ต.ดอยลาน โดยหลังเกิดเหตุได้กลับไปที่บ้านและทางผู้ใหญ่บ้านพยายามเกลี้ยกล่อมให้ไปมอบตัว
กระทั่งนายนิรันดร์ยินยอมมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ด้วยดี พร้อมให้เหตุผลว่าสาเหตุที่ทำลงไปเพราะขณะเดินผ่านครูในโรงเรียนได้ทำของตกทำให้ครูตกใจและเข้ามาแย่งมีดของนายนิรันดร์ จึงเกิดการต่อสู้เพื่อแย่งมีดคืนทำให้ได้รับบาดเจ็บกันไปทั้ง 2 ฝ่ายโดยตนก็ได้รับบาดเจ็บจึงรีบกลับบ้านดังกล่าว
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบหลักฐานและรอสอบปากคำครูสาวว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไรเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.