จันทบุรี - ชาวสวนลำไยเมืองจันท์นับ 100 คน รวมตัวร้องเลขาธิการ กมธ.เกษตรฯ ขายลำไยให้บริษัทรับซื้อผลผลิตยักษ์ใหญ่จากประเทศจีนกว่า 10 ล้านบาท แต่นาน 2 เดือนยังไม่ได้เงิน พบส่วนใหญ่เป็นชาวสวนใน อ.โป่งน้ำร้อน และสอยดาว
วันนี้ (15 ม.ค.) น.ส.ญาณธิชา บัวเผื่อน เลขาธิการคณะกรรมาธิการการเกษตร สภาผู้แทนราษฎร ได้เข้าพบ นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เพื่อหารือถึงแนวทางแก้ไขปัญหาส่งออกผลไม้จังหวัดจันทบุรี โดยเฉพาะทุเรียนและลำไย ที่ขณะนี้เริ่มได้รับการร้องเรียนจากชาวสวนในพื้นที่ อ.โป่งน้ำร้อน และสอยดาว ว่ามีปัญหาเรื่องการค้าขายกับกลุ่มทุนใหญ่ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ
โดยบอกว่าชาวสวนลำไยใน 2 อำเภอได้ส่งลำไยขายให้ผู้ประกอบการรับซื้อรายใหญ่ซึ่งเป็นกลุ่มทุนในประเทศจีน ที่ได้ลงทุนเปิดโรงคัดบรรจุ (ล้ง) ใน จ.จันทบุรี แต่สุดท้ายยังไม่ได้รับเงินรวมกว่า 10 ล้านบาท
น.ส.ญาณธิชา บอกว่า พฤติกรรมของทุนกลุ่มนี้ได้เริ่มมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ต.ค.2566 โดยได้เข้ามาทำสัญญาซื้อลำไยจากชาวสวนในพื้นที่ แต่เมื่อได้สินค้าแล้วกับขอผ่อนผันเรื่องการจ่ายเงิน โดยอ้างว่าต้องรอเงินโอนจากบริษัทแม่เป็นเงินรวมประมาณ 500 ล้านบาท
“ขณะนี้มีเกษตรกรประมาณ 100 คนที่ยังไม่ได้เงินค่าซื้อขายลำไย และได้รวมตัวกันเข้ามาร้องขอความช่วยเหลือ ซึ่งเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนจากการขายลำไยแล้วไม่ได้เงินที่ร้องเรียนมีทั้งใน ต.หนองมะค่า อ.สอยดาว ประมาณราว 20-30 คน ส่วนที่ ต.ปะตง พบว่าเกษตรกรชาวสวนประสบปัญหาเดียวกับเกือบทั้งหมู่บ้าน”
โดยตนได้มอบหมายให้ทีมงานลงพื้นที่สำรวจความเดือดร้อนเพื่อจะนำข้อมูลเข้าหารือกับคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร ในช่วงที่จะลงพื้นที่พบชาวบ้าน วันที่ 21 ม.ค. ที่สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนสอยดาว อ.สอยดาว จ.จันทบุรี
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้รับรายงานเพิ่มเติมว่า บริษัทที่ค้างจ่ายค่าลำไยจากชาวสวนใน จ.จันทบุรี เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการส่งออกผลไม้ทั้งลำไยและทุเรียนจากพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคใต้ ซึ่งขณะนี้เริ่มปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน เนื่องจากผู้ถือหุ้นเริ่มแตกคอกันจากปัญหาการค้าขายผลไม้ไม่ได้คุณภาพส่งไปประเทศปลายทาง จนถูกขึ้นบัญชีดำ