จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เอ่ยเตือนในวันพุธ (26 เม.ย.) ว่าบริษัทด้านคลาวด์คอมพิวติ้งของจีนอย่าง หัวเว่ย คลาวด์ (Huawei Cloud) และอาลีบาบา คลาวด์ (Alibaba Cloud) อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ และเตรียมที่จะพิจารณาเพิ่มรายชื่อบริษัทเหล่านี้ลงในบัญชีควบคุมการส่งออก
เมื่อวันอังคาร (25) วุฒิสมาชิกรีพับลิกัน 9 คนได้เรียกร้องให้รัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน ใช้มาตรการคว่ำบาตรกับหัวเว่ย คลาวด์ อาลีบาบา คลาวด์ รวมถึงผู้ให้บริการคลาวด์เซอร์วิสรายอื่นๆ ในจีน อีกทั้งยังเสนอให้ ไรมอนโด เพิ่มชื่อบริษัทเหล่านี้ลงในบัญชีดำ ‘Entity List’ ซึ่งหมายถึงกลุ่มองค์กรหรือบุคคลที่สหรัฐฯ เชื่อว่ามีความเชื่อมโยงหรืออาจก่อความเสี่ยงต่อความมั่นคงหรือผลประโยชน์ด้านนโยบายต่างประเทศของอเมริกา
ล่าสุด ไรมอนโด ได้ออกมากล่าวหาบริษัทคลาวด์ของจีนมีแนวโน้มที่จะเป็นภัยคุกคามต่ออเมริกาจริง
“ดิฉันได้เพิ่มรายชื่อบริษัทจีนกว่า 200 รายลงในบัญชี Entity List และเรายังคงทำงานอย่างแข็งขันและต่อเนื่องเพื่อตรวจสอบภัยความมั่นคงเพิ่มเติม และหากเราเชื่อว่ามีบริษัทไหนที่จำเป็นต้องถูกขึ้นบัญชีดำ เราก็จะไม่ลังเลเลย” เธอแถลงต่อคณะกรรมาธิการการจัดสรรงบประมาณของวุฒิสภาสหรัฐฯ (Senate Committee on Appropriations)
ไรมอนโด ยังคุยด้วยว่า บริษัทจีนราว 1 ใน 4 ของ Entity List ถูกขึ้นบัญชีดำในยุคที่เธอเป็นรัฐมนตรีพาณิชย์ “และเราจะยังคงทำต่อไป” พร้อมระบุว่ากระทรวงพาณิชย์จำเป็นต้องแสวงหาทรัพยากรเพิ่มเติมเพื่อทบทวนมาตรการควบคุมการส่งออก เนื่องจากภัยคุกคามเหล่านี้ “เป็นเรื่องจริง”
เนื้อความในจดหมายซึ่งนำโดย ส.ว.บิลล์ เฮเกอร์ตี ระบุว่า บริษัทคลาวด์คอมพิวติ้งของจีน “มีการร่วมมือกับองค์กรต่างชาติเพิ่มขึ้น รวมถึงบางองค์กรที่ถูกคว่ำบาตร ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อความมั่นคงและผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ชาติพันธมิตร และหุ้นส่วนของเรา”
เขาขอให้ ไรมอนโด สั่งขึ้นบัญชีดำบริษัทเหล่านี้ ซึ่งรัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุว่า “เห็นด้วยในภาพรวม” และรับปากจะพิจารณาอย่างจริงจัง
หัวเว่ย เทคโนโลยีส์ และอาลีบาบา ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้
เมื่อเดือน พ.ค. ปี 2019 กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้เพิ่ม หัวเว่ย ลงในบัญชีควบคุมการส่งออก ซึ่งทำให้ทางบริษัทออกมาปฏิเสธอย่างแข็งขันว่าไม่ได้เป็นภัยคุกคามอย่างที่อเมริกาอ้าง
ที่มา : รอยเตอร์
