อุทัยธานี - “ชาดา รมช.มหาดไทย” กดปุ่มเปิดตลาดนัดแก้หนี้อุทัยธานีครั้งแรก ย้ำอย่ากู้หนี้มาใช้หนี้ ทำชีวิตไม่มีปลอดหนี้แน่ ขณะที่ชาวบ้านเผยลูกหนี้นอกระบบยังผวาเจ้าหนี้-ไม่กล้ามา ขอ จนท.เข้าถึงหมู่บ้านแทน ขณะที่ลูกหนี้แบงก์ครวญนโยบายพักหนี้ ไม่ช่วยปลดหนี้จริง
วันนี้ (14 ม.ค. 67) นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมตลาดนัดแก้หนี้จังหวัดอุทัยธานี พร้อมทำพิธีมอบเงินกู้ยืมจากธนาคารให้ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการฯ โดยมีนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผู้ว่าฯ อุทัยธานี พร้อมด้วย พล.ต.ต.ณรงค์เดชศ์ ศักดิ์สมบูรณ์ ผบก.ภ.จว.อุทัยธานี, รองผู้ว่าฯ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่นทั้ง 8 อำเภอ ร่วมในพิธี ณ ลานสุพรรณิการ์ หน้าศาลากลางจังหวัดฯ
ซึ่งพบว่ามีประชาชนเดินทางมาร่วมลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการตลาดนัดแก้หนี้กันอย่างคึกคัก ทั้งขอคำปรึกษาและวิธีการย้ายหนี้นอกระบบเข้าสู่หนี้ในระบบกับธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ ตลอดจนการยื่นร้องขอความช่วยเหลือการผ่อนและพักชำระหนี้นอกระบบผ่านศูนย์ดำรงธรรมฯ
นายชาดากล่าวเปิดงานบางช่วงว่า ปัจจุบันคนไทยเป็นหนี้นอกระบบกันมากขึ้นจากการบริหารเงินในชีวิตผิดพลาด ซึ่งโครงการนี้หวังจะเป็นสะพานช่วยปลดหนี้ให้กับประชาชนที่กำลังแบกรับภาระหนี้สินนอกระบบอยู่ แต่อยากบอกกับทุกคนว่า อย่ากู้หนี้ มาใช้หนี้ เพราะมันจะไม่มีวันที่ชีวิตจะหมดหนี้ลงได้ อยากให้เริ่มต้นบริหารการชำระหนี้ใหม่ที่ดีกว่าเดิม
“ต้องยอมรับก่อนว่า เมื่อเราเป็นหนี้ยังไงเราก็ต้องใช้หนี้ แต่การใช้หนี้ตรงนี้ก็ต้องพอกับกำลังส่งของเราด้วยเช่นกัน เข้าใจว่าไม่มีใครอยากที่จะเป็นหนี้ และเข้าใจทั้งลูกหนี้ เจ้าหนี้ทุกคนด้วยเช่นกัน ซึ่งหวังว่าการขับเคลื่อนโครงการ ตลาดนัดแก้หนี้ ที่จัดขึ้นในครั้งนี้จะสามารถช่วยเหลือประชาชนให้สามารถปลดหนี้สินได้” นายชาดากล่าว
ด้านนายวิชา จันทร์หร่าย อายุ 48 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ต.เกาะเทโพ อ.เมืองอุทัยธานี กล่าวถึงข้อดีและข้อเสียของการจัดโครงการตลาดนัดแก้หนี้จังหวัดอุทัยธานีว่า โครงการที่จัดขึ้นในครั้งนี้นั้นถือว่าเป็นโครงการที่ดี ช่วยเพิ่มช่องทางการปลดหนี้ให้ประชาชนได้เพิ่มมากขึ้น
โดยเฉพาะกลุ่มชาวบ้านที่เป็นเกษตรกร แม้ส่วนใหญ่จะไม่ได้กู้หนี้นอกระบบ แต่ก็เป็นหนี้กับธนาคาร ซึ่งทางธนาคารและรัฐบาลก็มีโครงการข่วยเหลือพักชำระหนี้ แต่ว่าดอกเบี้ยก็ยังไม่ได้หยุดพักจริงๆ จึงทำให้ทุกวันนี้เกษตรกรต้องส่ง ซึ่งก็จ่ายกันได้แค่เพียงดอกเบี้ย จึงทำให้ยอดเงินต้นไม่ขยับลดลงไป ทำให้ไม่สามารถปลดหนี้สินได้จริง
ส่วนการกู้เงินนอกระบบนั้นต้องยอมรับว่ายังเป็นปัญหาใหญ่ของชาวบ้าน เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่ที่เป็นหนี้นอกระบบจะไม่กล้ามาขอรับการช่วยเหลือจากทางราชการเนื่องจากกลัวเจ้าหนี้ หากเป็นไปได้อยากให้มีการลงพื้นที่เปิดตลาดนัดแก้หนี้ในหมู่บ้านจะสามารถช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนในปัญหาหนี้ตรงนี้ได้อย่างทั่วถึง ตรงจุด
ขณะที่นายอัคคะเดชน์ ภัทรพิสิทธิ์พร ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักงาน ธ.ก.ส.จ.อุทัยธานี เปิดเผยว่า หลังจากที่ธนาคารได้ขานรับนโยบายดังกล่าว และมีมาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือและรองรับลูกหนี้นอกระบบขึ้นมาแล้ว จะเป็นการช่วยเหลือทั้งตัวลูกหนี้และเจ้าหนี้ จะเริ่มจากการเจรจาไกล่เกลี่ยกันต่อหน้าเจ้าหน้าที่ ก่อนเข้าสู่มาตรการดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันนั้นธนาคารจะช่วยเหลือในวงเงินที่จำนวน 20,000 บาท/ราย ดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อเดือน ปลอดชำระเงินต้น 6 เดือน ระยะเวลาชำระหนี้ไม่เกิน 3 ปี สามารถยื่นขอสินเชื่อได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 กันยายน 2567
สำหรับตลาดนัดแก้หนี้จังหวัดอุทัยธานีนั้น จะเป็นการบูรณาการร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี สำนักงานคลังจังหวัดอุทัยธานี สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดอุทัยธานี สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุทัยธานี สำนักงานยุติธรรมจังหวัดอุทัยธานี หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ เพื่อให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูความเป็นอยู่ คืนศักดิ์ศรีและความหวัง ตลอดจนสร้างความมั่นคงให้ประชาชนต่อไป
โดยตลาดนัดแก้หนี้จังหวัดอุทัยธานีจะจัดขึ้นในทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน จำนวน 12 ครั้ง เริ่มครั้งแรกวันที่ 14 มกราคม 2567 ครั้งที่ 2 วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 ครั้งที่ 3 วันที่ 10 มีนาคม 2567 ครั้งที่ 4 วันที่ 20 เมษายน 2567 ครั้งที่ 5 วันที่ 11 พฤษภาคม 2567 ครั้งที่ 6 วันที่ 9 มิถุนายน 2567 ครั้งที่ 7 วันที่ 13 กรกฎาคม 2567 ครั้งที่ 8 วันที่ 17 สิงหาคม 2567 ครั้งที่ 9 วันที่ 15 กันยายน 2567 ครั้งที่ 10 วันที่ 19 ตุลาคม 2567 ครั้งที่ 11 วันที่ 10 พฤศจิกายน 2567 และครั้งที่ 12 วันที่ 14 ธันวาคม 2567 ที่บริเวณลานสุพรรณิการ์ หน้าศาลากลางจังหวัดอุทัยธานี
