xs
xsm
sm
md
lg

“ทูตอิสราเอล” เยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวแรงงานไทย ที่ จ.นครพนม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นางออร์น่า ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย พร้อมคณะ ลงพื้นที่ จ.นครพนม เยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวแรงงานไทยที่เสียชีวิตจากการโจมตีของกลุ่มฮามาส
นครพนม - ทูตอิสราเอลลงพื้นที่จ.นครพนม เยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวแรงงานไทยที่เสียชีวิตจากเหตุถูกกลุ่มฮามาสโจมตี ยืนยันสิทธิประโยชน์ของแรงงานไทยได้รับเฉกเช่นเดียวกับชาวอิสราเอล หวังให้ครอบครัวผู้สูญเสียมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีในอนาคต


วันนี้ (9 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 189 ม.8 บ้านนาล้อม ต.นาหัวบ่อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม นางออร์น่า ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดนครพนม ที่บ้านนางโสดา แต้มกลาง ซึ่งเป็นแม่ของนายปริญญา แต้มกลาง แรงงานไทยในอิสราเอลที่เสียชีวิตจากการถูกโจมตีของกลุ่มฮามาส เพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจครอบครัว พร้อมมอบสิ่งของ และของใช้ที่จำเป็นให้ครอบครัวของนายปริญญา

จากนั้นนางออร์น่า ซากิฟ ได้เดินทางไปยังบ้านนายเศรษฐา โฮมสร ที่บ้านหนองเดิ่นพัฒนา ต.บ้านผึ้ง อ.เมืองนครพนม เพื่อให้ความช่วยเหลือพร้อมให้กำลังใจต่อครอบครัวของนายเศรษฐาที่เสียชีวิตจากสถานการณ์ถูกกลุ่มกองกำลังฮามาสบุกโจมตี เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา

นางออร์น่า ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย กล่าวว่า จุดประสงค์ที่มาครั้งนี้เพื่อมาเยี่ยมครอบครัวแรงงานที่เสียชีวิตและเพื่อมาแสดงความเคารพครอบครัวผู้สูญเสียจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ที่ถูกกองกำลังฮามาสบุกโจมตี ซึ่งในครั้งนั้นได้มีชาวอิสราเอลประมาณ 1,300 ราย รวมถึงแรงงานไทยจำนวน 39 รายที่เสียชีวิต

ในฐานะที่ตนเป็นเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย จึงเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องออกมาเยี่ยมครอบครัวของแรงงานไทยเพื่อรำลึกถึงแรงงานไทยที่ไปทำงานยังประเทศอิสราเอล ทั้งนี้ เรื่องสิทธิประโยชน์ของแรงงานไทยก็จะได้รับเฉกเช่นเดียวกันกับชาวอิสราเอล


การมาครั้งนี้ได้ประสานงานกับทางกระทรวงแรงงาน เพื่อให้ครอบครัวแรงงานไทยที่เสียชีวิตทุกคนได้รับสิทธิประโยชน์และได้รับเงินช่วยเหลือจากทางรัฐบาลอิสราเอล เพื่อให้ครอบครัวผู้สูญเสียชีวิตได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีในอนาคต ซึ่งจากการลงมาในพื้นที่ทราบว่าแรงงานผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นหัวหน้าครอบครัวในการออกไปหาเงินมาเพื่อจุนเจือครอบครัว สิ่งที่ช่วยเหลืออาจเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่รัฐบาลให้การช่วยเหลือให้มีเงินใช้จ่ายมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นไม่ลำบาก

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าแม่ ภรรยา และลูกๆ จะได้รับเงินเยียวยาครบกันทุกคน โดยก่อนหน้านี้ได้มีแรงงานไทยไปทำงานยังประเทศอิสราเอลจำนวนไม่น้อยกว่า 30,000 คน ในจำนวนนี้ได้มีแรงงานไทยจำนวน 8,500 คนที่เดินทางกลับมาแล้ว ขณะที่นายจ้างชาวอิสราเอลได้กล่าวว่ารักแรงงานไทยมาก อีกทั้งแรงงานไทยก็ชอบที่จะทำงานในประเทศอิสราเอล เพราะเงื่อนไขการจ้างงานดี ขณะที่ทางการอิสราเอลก็คาดหวังว่าแรงงานไทยที่กลับมาจะเดินทางกลับไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลอีกในเร็วๆ นี้


สำหรับตัวประกันที่ถูกกองกำลังฮามาสจับตัวไปนั้นมีจำนวน 250 คน แยกเป็นคนไทย 31 คน โดยคนไทยถูกปล่อยตัวกลับมาแล้ว 23 คน และเวลานี้ทางการอิสราเอลพยายามทุกวิถีทางที่จะให้มีการปล่อยตัวประกันทั้งหมด

ทั้งนี้ จังหวัดนครพนมมีแรงงานไปทำงานที่อิสราเอลประมาณ 2,136 คน เป็นแรงงานหญิง 48 คน ที่เหลือเป็นแรงงานชาย ถูกจับเป็นตัวประกัน 6 คน คือ 1. นายอุทัย แสงนวล อยู่บ้านโพนค้อ ต คำเตย อ.เมือง 2. นายบุดดี แสงบุญ อยู่บ้านดงน้อย ต.สามผง อ.ศรีสงคราม 3. นายนัฐพร อ่อนแก้ว อยู่บ้านหนองแสง ต.นามะเขือ อ.ปลาปาก 4. นายพัฒนายุทธ ตอนโศกรี อยู่บ้านนาล้อม ต.นาหัวบ่อ อ.โพนสวรรค์ 5. นายเฉลิมชัย แสงแก้ว อยู่บ้านโคกกลาง ต.ปลาปาก อ.ปลาปาก และ 6. นายณัฐพงษ์ ปินตา อยู่บ้านโพธิ์ตาก ต.โพธิ์ตาก อ.เมืองนครพนม โดยเกือบทั้งหมดได้รับการปล่อยตัวกลับบ้านแล้ว ยกเว้นนายณัฐพงษ์ ปินตา ที่กลุ่มฮามาสยังไม่ได้ปล่อยตัวออกมา


กำลังโหลดความคิดเห็น