ศูนย์ข่าวขอนแก่น-จับแล้วสาวแสบวัย 21 ปี ขโมยเงินและทองคำ ยายอายุ 71 ปี ขณะพักผ่อนนอนหลับยามบ่ายอยู่บนแคร่ใต้ถุนบ้าน สารภาพเงินที่ได้เอาไปใช้หนี้พนันออนไลน์ ส่วนทองจำนำร้านทองในอำเภอชุมแพ ด้านผัวบอกทนพฤติกรรมเมียคนนี้ไม่ไหวแล้ว ขอเลิกเด็ดขาด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.วันนี้(19ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุขโมยทรัพย์ในพื้นที่บ้านโนนสวรรค์ ต.หนองกุงธนสาร ได้แล้ว พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ และเงินสดจำนวนหนึ่งที่เหลืออยู่ โดยแกะรอยคนร้ายจากเส้นทางหลบหนี จนกระทั่งทราบว่า ไปหลบซ่อนตัวอยู่ภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นางสาวอลิศรา เชื้อพรมมา อายุ 21 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่6 ต.ขนวน อ.หนองนาคำ จ.ขอนแก่น ก่อนจะควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น
พ.ต.อ.คารม พรมคุณ ผกก.สภ.ภูเวียง กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งความจากผู้เสียหาย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ติดตามตัวคนร้าย แกะรอยจากภาพวงจรปิด และรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ จนกระทั่งทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุคือหญิงสาวรายหนึ่ง เป็นลูกสะใภ้ของชาวบ้านที่อยู่ติดกับบ้านโนนสวรรค์ หมู่5 ต.หนองกุงธนสาร อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น บ้านของนางสง่า ผู้เสียหาย ชาวบ้านต่างจำรูปพรรณของคนร้ายได้เป็นอย่างดี จึงแกะรอยติดตามตัว จนทราบว่า คนร้ายไปเช่าห้องพักอยู่ภายในรีสอร์ตแห่งในพื้นที่ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น
จึงนำกำลังเข้าควบคุมตัวได้พร้อมของกลาง ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน เงินสด จำนวน 1,500 บาท โทรศัพท์ ยี่ห้อไอโฟน 1 เครื่อง สมุดบัญชีเงินฝาก 1 เล่ม
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ในวันเกิดเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ของแม่ย่า เพื่อไปทำธุระต่างหมู่บ้าน ขากลับได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านหน้าบ้านของนางสง่า เห็นนางสง่านอนหลับ จึงจอดรถห่างจากบ้านของนางสง่าไปประมาณ 5 เมตร จากนั้นเดินเข้ามาภายในบ้าน หยิบเอากระเป๋าที่วางอยู่ปลายเท้าของนางสง่า แล้ววิ่งมาขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไป โดยเงินที่ได้นำไปใช้หนี้การพนันและเล่นการพนัน ส่วนแหวนทองคำ น้ำหนัก 6 สลึง จำนำที่ร้านรับจำนำในพื้นที่ อ.ชุมแพ แล้วนำเงินมาเที่ยวและซื้อของ
แบรนด์เนมมาใส่
เพราะผู้ก่อเหตุมีนิสัยเป็นคนชอบใช้ของแพง แต่เงินที่นำไปซื้อส่วนใหญ่ก็ได้มาจากการลักเล็กขโมยน้อย หยิบฉวยทรัพย์มีค่าของคนอื่น รวมทั้งของคนในครอบครัวไปขายแล้วนำเงินมาซื้อของใช้ต่าง ๆ เบื้องต้น พนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหะสถานโดยใช้ยานพาหนะ” ก่อนจะควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
มีรายงานว่าในเวลาต่อมา นางแพนด้า (ขอสงวนชื่อ-นามสกุลจริง) แม่ย่า และนายเก่ง (ขอสงวนชื่อ-นามสกุลจริง) สามีของ น.ส.อลิศรา ได้เดินทางมายัง สภ.ภูเวียง เพื่อเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ทั้ง 2 คน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับก่อเหตุของ น.ส.อลิศรา และต้องการมาติดต่อขอรับรถจักรยานยนต์คืน เนื่องจากรถจักรยานยนต์ที่ น.ส.อลิศรา ใช้ก่อเหตุ เป็นรถจักรยานยนต์ของนางหมวย ที่เพิ่งซื้อดาวน์มา และเพิ่งจะส่งงวดได้เพียง 5 งวดเท่านั้น
นายเก่ง สามีของ น.ส.อลิศรา เล่าว่า ตนเองและ น.ส.อลิศรา เพิ่งจะคบหากันได้ไม่ถึงปี ช่วงที่คบหากันตนก็ทราบว่า น.ส.อลิศรา มีนิสัยชอบเล็กเล็กขโมยน้อย และชอบโกหก ซึ่งตนเองก็เคยสั่งสอนว่า ให้เลิกนิสัยแบบนี้ แต่ก็ยังมีพฤติกรรมแบบเดิมเรื่อยมา จนตนและแม่เริ่มเอือมละอา โดยในวันเกิดเหตุ ตนและแม่ ออกมาทำงานนอกหมู่บ้าน ซึ่งตรงกับวันที่ น.ส.อลิศรา หยุดงานพอดี เมื่อไม่มีคนอยู่บ้าน น.ส.อลิศรา จึงได้แอบเอารถจักรยานยนต์ของแม่ไปใช้
จนกระทั่งตกค่ำ ก็มีตำรวจมาที่บ้าน แจ้งว่า ภรรยาของตนไปก่อเหตุลักทรัพย์ของชาวบ้าน จึงพยายามโทรหา น.ส.อลิศรา แต่ไม่รับสาย แต่พอทักแชทหากลับตอบแชท แต่ไม่ยอมบอกว่าอยู่ไหน ทั้งนี้หลังเกิดเหตุ ตนเองตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่า จะเลิกรา กับน.ส.อลิศรา อย่างเด็ดขาด ไม่ขอเอาภรรยาคนนี้กับคืน ต้องการเพียงรถจักรยานยนต์ของผู้เป็นแม่กลับคืนเท่านั้น