กาญจนบุรี - นายกรัฐมนตรียกคณะรัฐมนตรี พบปะชาว อ.พนมทวน ท่ามะกา ที่ที่ทำการพรรคเพื่อไทย เขต 3 ประชาชนชูป้ายมีทั้งหนุนและรอเงินเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท
วันนี้ (9 ธ.ค.) ที่ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย เขต 3 เลขที่ 281 ถ.พระแท่น ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เดินทางมาพบปะและรับฟังข้อเสนอจากพี่น้องประชาชนชาวอำเภอท่ามะกา และ อ.พนมทวน ว่ามีปัญหาอะไรบ้างที่ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นบ้าง
จากป้ายที่ติดเอาไว้ในห้องรับรอง พบว่า มีชื่อชื่อคณะรัฐมนตรีร่วมเดินทางมาด้วยหลายกระทรวงด้วยกัน เช่น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นต้น
โดยมีนายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ นายชูศักดิ์ แม้นทิม นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ นายพนม โพธิ์แก้ว ส.ส.พรรคเพื่อไทยกาญจนบุรี เขต 1 เขต 2 เขต 4 และเขต 5 ร้อยโททศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายแพทย์ประวัติ กิจธรรมนิจกุล นายก อบจ.กาญจนบุรี รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ อสม. และประชาชนชาวอำเภอพนมทวน อำเภอท่ามะกา เป็นจำนวนมากให้การต้อนรับ
ซึ่งบรรยากาศนั้นเป็นไปอย่างคึกคัก ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด โดยพล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.เศรษฐสิริ นิพภยะ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.สมบัติ โพธิ์งาม ผกก.สภ.ท่าเรือ จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายงาน ป.2 นาย ตำรวจจราจร จำนวน 4 นาย ตำรวจในเครื่องแบบ 4 นาย ตำรวจนอกเครื่องแบบ 11 นาย ตำรวจประจำจุดคัดกรอง จำนวน 8 นาย และตำรวจประจำกองอำนวยการร่วมอีก 2 นาย
ส่วน น ส.พลอย ธนิกุล อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 3 ในฐานะเจ้าของสถานที่ได้จัดเตรียมข้าวปลาอาหารและน้ำดื่มเอาไว้รองรับประชาชนที่มาร่วมงานอย่างเพียงพอ ขณะเดียวกัน ได้มีการนำป้ายไวนิลขนาดใหญ่มาติดตั้งบนเวที ระบุว่า “วาระแห่งชาติ การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ” ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลเอาจริงกับการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ จึงประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ และนอกจากนี้ ยังมีประชาชนนำป้ายสนับสนุนให้รัฐบาลแจกเงินตามนโยบายโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ให้ประชาชน
อีกทั้งมีป้ายถามด้วยว่า ท่านนายกฯ คะ เราจะได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท จริงใช่ไหม เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท รออยู่นะคะท่าน รวมทั้งป้าย ขอบคุณท่านนายกฯ ที่ช่วยแก้หนี้นอกระบบให้กับชาวบ้านนะคะ และป้ายชาว ต.หนองลาน รักนายกฯ เป็นต้น โดยการพบปะพี่น้องประชาชนใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากนั้นจึงเดินทางไปรับประทานอาหาร ที่ร้านอาหารคีรีธาราริเวอร์ไซด์ ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง จ.กาญจนบุรี ก่อนที่จะเดินทางไปเยี่ยมชมนิทรรศการสินค้า OTOP สินค้าวิสาหกิจชุมชนหน้าห้องประชุมบุษราคัม ชั้น 1 องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ในเวลา 13.00 น.
ทั้งนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวกับประชาชนที่มารอต้อนรับเอาไว้ตอนหนึ่งว่า จะครบ 3 เดือนแล้วในการทำงานของรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งบ้านเมืองเรามีปัญหาเยอะ เรามีทีมงานที่พร้อมรับใช้ประชาชนอย่างเต็มที่ การลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีครั้งนี้มีเสียงวิงวอนและเสียงสะท้อนจากประชาชนทั้งเรื่องปากท้อง หนี้สิน ยาเสพติด การค้าขายระหว่างพรมแดน และผลิตภัณฑ์การเกษตร รวมถึงหนี้นอกระบบ
ปัญหานี้จะต้องหมดไป เพราะรัฐบาลให้ความสำคัญมาก ได้มีการตั้งเป้าหมายชัดเจนระหว่างนายอำเภอและผู้ว่าราชการจังหวัด ใครมีปัญหาเรื่องหนี้อย่างไม่เป็นธรรม ถูกข่มขู่ คุกคาม รัฐบาลพร้อมช่วยเหลือ อย่ากลัว ให้เดินออกมาพูดคุยกัน เราจะให้ความเป็นธรรมสูงสุด
ส่วนเรื่องปัญหายาเสพติดนั้นได้กัดกร่อนสังคมไทยมาอย่างยาวนาน โดยได้ประสานฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ และพื้นที่แก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ต้องกำจัดยาเสพติดให้เร็ว ส่วนเรื่องการค้าการลงทุนมีการทำงานอย่างเข้มแข็ง ยกระดับให้ภาคอุตสาหกรรมแข็งแกร่งขึ้น ส่วนเรื่องค่าแรงขั้นต่ำจะต้องถูกยกระดับขึ้นมา หลายคนรับไม่ได้ต้องนำไปพูดคุยและแก้ไขกัน วันนี้เป็นโอกาสดีที่เราได้มาเจอกัน เป็นมิติใหม่ หลังรัฐบาลได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องที่อยากให้เราช่วยเหลืออย่างไร ให้สื่อสารมาได้เลย อยากให้ความมั่นใจ เราทำงานเต็มที่
สำหรับการผลักดันการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเป็นวาระแห่งชาติ ตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมามีการเปิดศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบในระดับจังหวัดและอำเภอ เพื่อเปิดลงทะเบียนลูกหนี้นอกระบบทั้งรูปแบบ Walk in และระบบออนไลน์ โดยข้อมูลล่าสุด (7 ธ.ค.) มีประชาชนทั่วประเทศลงทะเบียนแล้วเกือบ 80,000 คน รวมมูลหนี้เกือบ 4,000 ล้านบาท
โดยจังหวัดกาญจนบุรี มีผู้ลงทะเบียนมากเป็นอันดับที่ 32 จาก 77 จังหวัด จำนวนเกือบ 1,000 คน รวมมูลค่าหนี้กว่า 40 ล้านบาท หากประชาชนไม่สามารถลงทะเบียนได้ด้วยตนเอง สามารถติดต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดและศูนย์ดำรงธรรมอำเภอทุกแห่ง หรือโทร.ได้ที่สายด่วน 1567