กำแพงเพชร – ตร.ตามรวบหนุ่มกำแพงเพชรแค้นเพื่อนสนิทคิดไม่ชื่อลวงเมียไปข่มขืน..ออกอุบายชวนตกปลา พอสบโอกาสชักปืนยิงหัว-หน้า จนเสียชีวิต ก่อนพาภรรยามาช่วยทำลายหลักฐาน-โยนปืนทิ้งน้ำ
วันนี้(8 ธ.ค.66) พ.ต.อ.เอนก จันทร์ศร รอง ผบก.ภ.กำแพงเพชร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดกำแพงเพชร พนักงานสอบสวน สภ.ลานกระบือ นำตัวนายอัฐพงษ์(บุญมี) พุ่มพวง อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้อาวุธฆ่าบุคคลอื่นจนเสียชีวิต เดินทางไปชี้จุดเกิดเหตุชี้จุดเกิดเหตุที่นำหลักฐานมาทิ้งบริเวณสวนสาธารณะเกาะลอย หมู่ที่ 12 ต.นิคมทุ่งโพธิ์ทะเล อ.เมืองกำแพงเพชร
คดีดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลานกระบือ ได้รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิตบริเวณแอ่งน้ำพื้นที่หมู่ที่ 3 ต.จันทิมา อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2566 จึงได้ประสานไปยังพื้นที่ใกล้เคียงจนพบว่ามีการแจ้งบุคคลสูญหายไว้ ทราบชื่อภายหลังคือ นายฉัตรชัย พรมจันทร์ อายุุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81 หมู่ที่ 3 ต.หนองทอง อ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร
จากนั้นตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดกำแพงเพชรจึงได้สืบหาพยานหลักฐานพยานบุคคลจนทราบว่า นายอัฐพงษ์ หรือบุญมี ผู้ต้องหาได้มารับตัวผู้เสียชีวิตไปจริง ก่อนมีการตรวจสอบจับกุมตัวผู้ต้องหาไปสอบสวน กระทั่งผู้ต้องหารับสารภาพว่าก่อเหตุดังกล่าวจริง
โดยอ้างว่าผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นเพื่อนสนิทได้ล่อลวงภรรยาตนให้ออกจากบ้านไปหา ก่อนจะใช้กำลังข่มขืนภายในรถยนต์ส่วนตัวของผู้เสียชีวิต เมื่อประมาณร่วมๆ 2-3 เดือนก่อน ตนจึงเก็บความแค้นไว้ ก่อนจะหาซื้ออาวุธปืนมาเตรียมไว้
กระทั่ง 30 พ.ย.66 ก็ได้ออกอุบายชักชวนผู้เสียชีวิตไปหาปลา แล้วขับรถไปรับผู้เสียชีวิตมาหาปลาบริเวณแอ่งน้ำพื้นที่หมู่ที่ 3 ต.จันทิมา อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร เมื่อสบโอกาสจึงใช้อาวุธปืนสั้นยิงเข้าที่บริเวณใบหน้าและศีรษะ จนเสียชีวิต จากนั้นตนจึงไปรับภรรยาที่หลบอยู่ในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง แล้วช่วยกันทำลายหลักฐานของผู้เสียชีวิต และนำไปโยนทิ้งน้ำบริเวณเกาะลอย รวมทั้งอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุด้วย
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องประสานชุดค้นหาใต้น้ำจากอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิสว่างกำแพงเพชร ธรรมสถาน ช่วยกันงมหา กระทั่งก็พบหลักฐานตามที่ผู้ต้องหาให้การทั้งหมด ก่อนนำตัวไปยัง สภ.ลานกระบือ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านนางดง พรมจันทร์ อายุ70 ปี แม่ผู้เสียชีวิตเล่าว่า ช่วงเวลาประมาณ2 ทุ่มวันที่30 พ.ย. นายบุญมีมารับลูกชายตนโดยบอกว่า..จะมารับไปน็อกปลา จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อลูกได้อีก ชวนใครไปตามหาก็ยังไม่มีใครพาไป จนกระทั่งวันที่4
ธันวาคม2566 จึงได้ไปแจ้งความลูกชายหายตัวไป จากนั้นตนก็มาทราบข่าวอีกทีในวันที่5 ธันวาคม2566 ว่ามีผู้พบศพลูกชายตนเสีชชีวิตอยู่ในแอ่งน้ำซึ่งห่างออกจากบ้านไปกว่า20 กิโลเมตร
ทั้งนี้หลังจากทราบข่าวว่าตำรวจจับคนร้ายได้แล้วตนรู้สึกดีใจและขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนที่ผู้ก่อเหตุให้การว่า ลูกชายตนไปข่มขืนแฟนผู้ก่อเหตุนั้น ตนไม่เชื่อเด็ดขาด เพราะลูกชายตนหน้าตาดี มีแฟนอยู่แล้ว และมักมีผู้หญิงมาชอบพอกัน แต่ละคนหน้าตาสวยๆทั้งนั้น ตนไม่เชื่อเด็ดขาด
ขณะที่นางสาวน้ำอ้อย ทองคำ อายุ50 ปี พี่สาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่าเรื่องที่ผู้ต้องหาอ้างว่าน้องชายข่มขืนแฟน โดยพาไปข่มขืนในรถยนต์นั้น ขอปฏิเสธเลย ว่าไม่เป็นความจริง น้องชายตนเป็นคนหน้าตาดีมีแฟนหลายคน แต่ละคนสวยๆทั้งนั้น
ไม่น่าจะไปข่มขืนใคร และที่สำคัญรถยนต์น้องชายจอดเสียมานานนับปีจนหญ้าขึ้นฝุ่นเกาะไปทั้งคัน ประตูก็เปิดไม่ได้เพราะกุญแจก็ไม่รู้ไปอยู่ไหน ยอมรับอาจจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับยาเสพติดถึงทำให้น้องชายถูกฆ่าตาย
ทั้งนี้ในระหว่างที่พูดคุยกับญาติผู้เสียชีวิตมีบรรดาญาติคนอื่นๆรวมทั้งเพื่อนบ้านเข้ามาดูเหตุการณ์และพาผู้สื่อข่าวเดินไปดูรถยนต์ที่ผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นจุดที่ใช้ในการข่มขืนพบว่ารถยนต์จอดอยู่จนยางแบน หญ้าขึ้นปกคลุม ฝุ่นเกาะจนหนา ประตูไม่สามารถเปิดได้เนื่องจากไม่มีกุญแจรถ ซึ่งต่างยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหา