นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงมาตรการในการกำกับดูแลควบคุมการใช้อาวุธปืนเพื่อความปลอดภัยของประชาชน โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมกำหนดมาตรการและแนวทางการแก้ไขปัญหา พร้อมทั้งกำชับว่าหลังจากนี้ไปต้องไม่มีการพกพาอาวุธปืนแล้ว
เพื่อเป็นการป้องกันเหตุอาชญากรรมที่ร้ายแรงและสนองตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จึงได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดสั่งการ ดังนี้ 1) ให้นายทะเบียนท้องที่ "งดการออกใบอนุญาต" ให้สั่ง นำเข้า หรือค้าซึ่ง "สิ่งเทียมอาวุธปืนชนิดแบลงค์กัน" หรือสิ่งเทียมอาวุธปืนอื่นที่สามารถดัดแปลงเป็นอาวุธปืนได้โดยง่าย และแจ้งให้นายทะเบียนท้องที่ทราบแนวทางที่จะไม่มีนโยบายให้เพิ่มเติมผู้ได้รับใบอนุญาต สั่ง นำเข้า หรือค้าซึ่งสิ่งเทียมอาวุธปืนรายใหม่ ทุกท้องที่ทั่วประเทศ
และสำหรับ "กรณีร้านค้าอาวุธปืน" ให้นายทะเบียนท้องที่งดการออกใบอนุญาตให้สั่ง หรือนำเข้า ซึ่งอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง พร้อมทั้ง 2) ให้นายทะเบียนท้องที่อำเภอขอความร่วมมือไปยัง "บุคคลผู้ครอบครองแบลงค์กันหรือสิ่งเทียมอาวุธปืนผู้สุจริตทุกราย" ซึ่งเป็นผู้ที่ไม่ได้ดัดแปลงแก้ไขสิ่งเทียมอาวุธปืนของตนเองแต่อย่างใด ให้นำแบลงค์กันหรือสิ่งเทียมอาวุธปืนที่ครอบครองมาแสดงและทำบันทึกต่อนายทะเบียนท้องที่ที่มีภูมิลำเนาอยู่ เพื่อเป็นการแสดงเจตนาสุจริตโดยไม่เพิ่มภาระเกินสมควรกับบุคคลเหล่านั้น
และ 3) ให้นายทะเบียนท้องที่พิจารณาออกใบอนุญาตให้ซื้ออาวุธปืน (แบบ ป.3) ใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน (แบบ ป.4) และใบอนุญาตให้สั่งหรือนำเข้าซึ่งเครื่องกระสุนปืน (แบบ ป.2) แก่สมาคมกีฬายิงปืนที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยการกีฬาแห่งประเทศไทยเท่านั้น และต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน โดยเครื่องกระสุนปืนที่จะอนุญาตให้สมาคมกีฬายิงปืนซื้อ สั่งหรือนำเข้าได้ จะต้องเป็นชนิดและขนาดที่สอดคล้องกับอาวุธปืนที่ปรากฏตามใบอนุญาตให้มี และใช้อาวุธปืนของสมาคมกีฬายิงปืน
รวมทั้งสอดคล้องเหมาะสมกับจำนวนเครื่องกระสุนปืนโดยดูจากข้อเท็จจริงตามสภาพความต้องการของแต่ละพื้นที่ ตลอดจนศักยภาพพื้นที่ในการจัดเก็บอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน และในกรณีที่นายทะเบียนท้องที่จะพิจารณาออกใบอนุญาตให้สั่ง หรือนำเข้า ซึ่งเครื่องกระสุนปืน ชนิดเครื่องกระสุนปืนสั้นต้องถือปฏิบัติตามระเบียบ กฎหมาย ที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
นอกจากนี้ ตนยังได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดงดการออกใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว (แบบ ป.12) ในเขตพื้นที่จังหวัด ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และเตรียมประสานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจพิจารณาออกใบอนุญาตพกพาอาวุธปืนใน กทม. และทั่วราชอาณาจักร เพื่อขอความร่วมมืองดออกใบอนุญาต