สมุทรสงคราม - คณะกรรมการธรรมาภิบาล (ก.ธ จ.) ลงพื้นที่สอดส่องการสร้างถนน 2 โครงการ มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท ที่ล่าช้าใน ต.ยี่สาร และ ต.แพรกหนามแดง อ.อัมพวา พบดินมีความอ่อนตัว
วันนี้ (24 พ.ย.) ในที่ห้องประชุมศาลากลาง จ.สมุทรสงคราม นายพีระ ทองโพธิ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 4 ในฐานะประธานกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด (ก.ธ.จ.) สมุทรสงคราม เป็นประธานประชุมคณะกรรมการธรรมาภิบาล จ.สมุทรสงคราม โดยมีที่ปรึกษาคณะกรรมการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยได้มีการสรุปผลการดำเนินงานในปีงบประมาณที่ผ่านมา และพิจารณาคัดเลือกแผนงาน โครงการเพื่อสอดส่องประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ของคณะกรรมการธรรมาภิบาล จ.สมุทรสงคราม
โดยที่ประชุมเห็นว่ามีโครงการใหญ่ที่น่าสนใจคือ โครงการของแขวงทางหลวงสมุทรสงคราม 4 โครงการ งบประมาณ 69 ล้านบาท โครงการของแขวงทางหลวงชนบทสมุทรสงคราม 4 โครงการ งบประมาณ 18 ล้านบาท และโครงการของโยธาธิการ จ.สมุทรสงคราม 3 โครงการ งบประมาณ 36,400,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่มีงบประมาณกว่า 3 ล้านบาทขึ้นไปที่ที่ประชุมเห็นว่าควรมีการสอดส่อง โดยในปี 2567 หน่วยงานท้องถิ่นมีโครงการที่มีงบประมาณมากกว่า 3 ล้านบาทขึ้นไปจำนวน 17 โครงการ มีโครงการขนาดใหญ่ 1 โครงการ คือโครงการปรับปรุงถนนพระราม 2 โดย อบต.บางแก้ว งบประมาณ 22 ล้านบาทด้วย
จากนั้นที่ประชุมได้ติดตามสอดส่องโครงการในปีงบประมาณ 2566 ที่ดำเนินการแล้ว แต่ยังไม่แล้วเสร็จตามสัญญา จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการปรับปรุงถนนลาดยางแอสฟัลติกคอนกรีต สายแยก ทล.35-บ้านยี่สาร ต.ยี่สาร อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ความยาว 2 กิโลเมตร กว้าง 6 เมตร งบประมาณ 11,990,000 บาท ผลการดำเนินงานล่าสุดแล้วเสร็จ 84.52% คงเหลือ 15.48% เป็นงานตีเส้นและติดตั้งเครื่องหมายจราจร คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน 2566 นี้ ส่วนโครงการที่ 2 คือ โครงการปรับปรุงถนนลาดยางแอสฟัลติกคอนกรีต สายบ้านคลองขุด-บ้านสี่แยก ต.แพรกหนามแดง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ความยาว 1.942 กิโลเมตร ความกว้าง 6 เมตร งบประมาณ 9,995,000 บาท ซึ่งได้มีการแก้ไขสัญญาหลายครั้ง
เนื่องจากพบโครงสร้างทางไม่แข็งแรงหลังการดำเนินการ ทั้งนี้ เนื่องจากต้องรองบประมาณเป็นเวลานานจึงทำให้รูปแบบถนนที่ส่งในคำของบประมาณไม่สามารถปรับใช้กับสภาพดินปัจจุบันได้ อีกทั้งดินมีความอ่อนจึงทรุดตัวเป็นระยะทางประมาณ 500 เมตร ต้องขุดรื้อถึงชั้นที่เสียหาย แล้วเปลี่ยนวัสดุใหม่ โดยใช้วิธีการทำ deep patch สรุปภาพรวมการก่อสร้างล่าสุด งานที่ทำแล้วเสร็จ 89.77% งานคงเหลือ 11.23% เป็นการติดตั้งเครื่องหมายจราจร
ซึ่งเรื่องนี้ที่ประชุมเห็นว่าหลังทำถนนแล้วเสร็จและส่งมอบให้ท้องถิ่นแล้ว ต้องมีการควบคุมการบรรทุกน้ำหนักของรถบรรทุกที่สัญจร เพื่อป้องกันไม่ให้ถนนชำรุดเสียหาย และเพื่อให้การสอดส่องเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีข้อมูลประกอบการติดตามสอดส่อง จึงได้เชิญเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงชนบทสมุทรสงคราม มาให้ข้อมูลต่อที่ประชุมและร่วมลงพื้นที่ครั้งนี้ด้วย จากนั้นหัวหน้าผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ก.ธ.จ.สมุทรสงคราม และที่ปรึกษาคณะกรรมการได้ลงพื้นที่สอดส่อง 2 โครงการดังกล่าวพบว่าเป็นไปตามรายงานของเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงชนบทสมุทรสงคราม แต่ยังไม่ได้มีการตีเส้นและติดตั้งเครื่องหมายจราจร
นายพีระ ทองโพธิ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 4 กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นการติดตามสอดส่องโครงการของจังหวัดในปีงบประมาณ 2566 ที่ดำเนินการแต่ยังไม่แล้วเสร็จตามสัญญา จึงได้เร่งรัดให้ผู้รับจ้างดำเนินการให้แล้วเสร็จอย่างเร่งด่วน เนื่องจากประชาชนในพื้นที่จะได้รับประโยชน์จากการใช้สัญจรไปมาและการขนส่งผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร
นอกจากนี้ ยังมีข้อกังวลเรื่องการปรับปรุงรอยต่อระหว่างถนนกับคอสะพาน ซึ่งส่วนมากจะมีการทรุดตัว หากทำไม่ดีจะทำให้เกิดอุบัติเหตุแก่ยวดยานพาหนะที่สัญจรได้ง่าย จึงกำชับผู้ควบคุมงานให้ดูแลอย่างเคร่งครัดและใกล้ชิด เพื่อให้โครงการของภาครัฐมีความสุจริต โปร่งใส และเที่ยงธรรม