สมุทรสงคราม - ผู้ประกอบการที่พักมีมติขอให้ อบจ.เลื่อนเก็บภาษีค่าที่พัก 2% ออกไปอีก 3 ปี ขณะที่นายก อบจ.ระบุเป็นกฎหมายที่ต้องปฏิบัติ จะนำเข้าที่ประชุมสภาพิจารณาต้นปีหน้า แต่จะให้งดจัดเก็บเลยนั้นไม่น่าทำได้
นายสัมพันธ์ พงษ์พรรณากูล นายกสมาคมท่องเที่ยวสมุทรสงคราม และคณะกรรมการได้เข้ายื่นหนังสือต่อ น.ส.กาญจน์สุดา ปานะสุทธะ นายก อบจ.สมุทรสงคราม เรื่องขอปรับปรุงค่าธรรมผู้เข้าพักในโรงแรม โดยนายสัมพันธ์ กล่าวว่าได้ประชุมสมาชิกผู้ประกอบการที่พักโรงแรม โฮมสเตย์ และรีสอร์ตเมื่อ 2 วันก่อน กรณี อบจ.สมุทรสงคราม มีหนังสือแจ้งไปยังผู้ประกอบการขอเก็บภาษีค่าที่พักเพิ่มจากนักท่องเที่ยวผู้มาใช้บริการอีก 2% ซึ่งเป็นอัตราสูงสุด และมากกว่าจังหวัดอื่นๆ ที่มีการท่องเที่ยวคึกคักและโรงแรมขนาดใหญ่กว่า ขณะที่ที่พักที่ไม่ได้ขออนุญาตกลับไม่ต้องเสียภาษีตัวนี้ โดยมีผู้ประกอบการเข้าประชุมกว่า 30 คน
นายสัมพันธ์ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติเสนอ อบจ.สมุทรสงคราม 3 ข้อ คือ 1.ขอให้ชะลอการเก็บค่าธรรมเนียมหรือภาษีดังกล่าวออกไปอีก 3 ปีเพื่อให้ผู้ประกอบการที่พักได้มีโอกาสฟื้นกลับมาประกอบการได้ใกล้เคียงกับสถานการณ์ในช่วงก่อนเกิดการระบาดของโควิด-2019 2.หากทำไม่ได้ขอให้ปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียมหรือภาษีดังกล่าวลงจาก 2% เหลือไม่เกิน 0.5% เพื่อให้ใกล้เคียงกับพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น พัทยา ระยอง ชลบุรี และ 3.อบจ.สมุทรสงครามควรมีหลักเกณฑ์ในการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ตั้งใจประกอบธุรกิจโดยถูกต้องตามกฎหมายและให้นำส่งค่าธรรมเนียมให้แก่ อบจ.ด้วยการให้ความช่วยเหลือด้านการตลาดและพัฒนาการท่องเที่ยวให้กลับมาเป็นที่นิยมเหมือนในอดีต ส่วนผู้ประกอบการที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายต้องงดเว้นการช่วยเหลือ เพื่อจูงใจให้เข้ามาในระบบเหมือนกัน อีกทั้งเพื่อให้เกิดความเสมอภาคและเป็นธรรมในการประกอบธุรกิจ
นายสัมพันธ์ กล่าวอีกว่าขณะนี้ภาคการท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร หากเป็นไปได้อยากให้ อบจ.ยกเลิกการเก็บภาษี 2% นี้หรือเลื่อนการจัดเก็บออกไปอีก 3 ปี แล้วค่อยนำมาพิจารณาใหม่ เพราะหากมีการเรียกเก็บขณะนี้ ภาระต้องตกอยู่กับผู้ประกอบการที่จะต้องเป็นผู้จ่ายเอง เพราะหากเรียกเก็บจากลูกค้าเพิ่มยิ่งจะทำให้ลูกค้าลังเลที่จะมาใช้บริการ และอาจเลือกไปใช้ที่พักที่ไม่มีใบอนุญาตแทนเพราะไม่ต้องเสียภาษีตัวนี้ก็เป็นได้
ด้าน น.ส.กาญจน์สุดา ปานะสุทธะ นายก อบจ.สมุทรสงคราม กล่าวว่า เรื่องการจัดเก็บภาษีที่พัก 2% อบจ.ทั่วประเทศต้องถือปฏิบัติทุกแห่งเพราะเป็นกฎหมาย เพียงแต่อาจเก็บไม่เท่ากัน เพราะหากละเว้นนายกอาจจะโดนมาตรา 157 ได้ สำหรับ จ.สมุทรสงคราม เมื่อผู้ประกอบการที่พักได้รับความเดือดร้อนตนก็ประชุมคณะกรรมการจัดเก็บรายได้ของ อบจ.ว่าจะว่าอย่างไร หากมีช่องทางทำได้ตนจะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมสภา ซึ่งจะมีการประชุมในช่วงเดือนมกราคม 2567 เพื่อพิจารณาการจัดเก็บภาษีดังกล่าว หากมีมติเป็นเช่นไรจะถือปฏิบัติตามนั้น แต่การจะให้ยกเลิกไม่จัดเก็บเลยนั้นตนคิดว่าไม่น่าจะทำได้
สำหรับ จ.สมุทรสงคราม มีที่พักทั้งรีสอร์ต โฮมสเตย์ และโรงแรมที่ได้รับการสำรวจรวม 393 แห่ง แยกเป็นที่ได้รับใบอนุญาต และใบรับแจ้ง 284 แห่ง ยังไม่ได้รับใบอนุญาต และใบรับแจ้ง 109 แห่ง อยู่ในพื้นที่ อ.เมือง 147 แห่งได้รับใบอนุญาตหรือใบรับแจ้ง 136 แห่ง ไม่ได้รับใบอนุญาตหรือยังไม่ได้ออกใบรับแจ้ง 11 แห่ง อ.อัมพวา 219 แห่ง ได้รับใบอนุญาตหรือใบรับแจ้ง 22 แห่ง ไม่ได้รับใบอนุญาตหรือยังไม่ได้ออกใบรับแจ้ง 93 แห่ง อ.บางคนที 27 แห่งที่ได้รับใบอนุญาตหรือใบรับแจ้ง 22 แห่งไม่ได้รับใบอนุญาตหรือยังไม่ได้ออกใบรับแจ้ง 5 แห่ง และจาก 393 แห่ง แยกเป็นโรงแรม 88 แห่ง ได้รับใบอนุญาตแล้ว 72 แห่ง ยังไม่ได้รับใบอนุญาต 16 แห่ง อยู่ในพื้นที่ อ.เมือง 56 แห่ง อนุญาตแล้ว 45 แห่ง ยังไม่อนุญาต 11 แห่ง อยู่ในพื้นที่ อ.อัมพวา 19 แห่ง อนุญาตแล้ว 18 แห่ง ยังไม่อนุญาต 1 แห่ง และพื้นที่ อ.บางคนที 13 แห่ง อนุญาตแล้ว 9 แห่ง ยังไม่อนุญาต 4 แห่ง
ส่วนสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมมี 305 แห่ง ออกใบรับแจ้งแล้ว 212 แห่ง ยังไม่ได้ออกใบรับแจ้ง 93 แห่ง อยู่ในพื้นที่ อ.เมือง 91 แห่ง ออกใบรับแจ้งแล้วทั้งหมด อยู่ในพื้นที่ อ.อัมพวา 200 แห่ง ออกใบรับแจ้งแล้ว 108 แห่ง ยังไม่ออกใบรับแจ้ง 92 แห่ง และอยู่ในพื้นที่ อ.บางคนที 14 แห่ง ออกใบรับแจ้งแล้ว 13 แห่ง ยังไม่ได้ออกใบรับแจ้ง 1 แห่ง
