xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจทางหลวงนครปฐมไล่ล่ารถบรรทุกแบกน้ำหนัก แต่ยังพบมีหลายคันผิดกฎหมาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นครปฐม - ตำรวจทางหลวงนครปฐม กวดขันเข้มเอาจริงรถบรรทุกแบกน้ำหนักเกินกฎหมาย โดยได้ไล่ล่าระทึกหลายวันติด ขณะประชาชนยังร้องเรียนมีรถบรรทุกไม่คลุมผ้าใบปิดท้ายทำให้หิน ดิน ทรายตกบนผิวจราจรและกระเด็นตกใส่รถประชาชน โดยยังมีการขับขี่หวาดเสียวไม่เกรงกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (23 พ.ย.) ที่จังหวัดนครปฐม พ.ต.อ.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล. พ.ต.อ.ภคพล สุขล รรท.ผกก.2 บก.ทล. พ.ต.ท.นโรตม์ ยุวบูรณ์ รรท.รอง ผกก.2 บก.ทล. พ.ต.ท.วศิษฎ์ มินเสน รอง ผกก.2 บก.ทล. กวดขันผู้ใดขับรถในลักษณะไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น ใช้ยานพาหนะที่มีน้ำหนักบรรทุกเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดมาใช้บนทางหลวง
 
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 พ.ย. พ.ต.ต.กล้า สมบัติพิบูลย์ รรท.สว.ส.ทล.1 กก2 บก.ทล. ร.ต.อ.เอกกฤษณ์ ขุนรักพรหม ร.ต.ท.บัณฑิต จำปาศรี ร.ต.ต.อำนวย บุญทองศรี ร.ต.ต.ฉลาด ใจแก้ว รอง สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ด.ต.จักรพงศ์ พุฒตาล ด.ต.จิรันธนิน พิชิตไชยปรีชา จ.ส.ต.ฐณรัช นาคนาโส ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.
 
ได้ร่วมจับกุมตัว นายพิสิทธิ์ เกตุแก้ว อายุ 53 ปี 12 ม.5 ต.ตอนพุทรา อ.ดอนตูม จ.นครปฐม พร้อมรถบรรทุกส่วนบุคคล ชนิด 3 เพลา 6 ล้อ ยาง 10 เส้น ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน 90-5729 นครปฐม ใบชั่งน้ำหนัก หจก.โรงสีไฟปฐมวิวัฒน์ เลขที่ 25264 โดยกล่าวหาว่า ขับรถในลักษณะที่เห็นได้ว่าไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น ใช้ยานพาหนะที่มีน้ำหนักบรทุกเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดมาใช้บนทางหลวง พ.ร.บ.ทางหลวง ม.61 ม.73/2 และประกาศของผู้อำนวยการทางหลวงแผ่นดิน ลงวันที่ 22 ธ.ค.2548 เรื่องห้ามใช้ยานพาหนะที่มีน้ำหนัก น้ำหนักบรรทุก หรือน้ำหนักลงเพลาเกินกว่าที่ได้กำหนด
 
โดยการติดตามจับกุมดังกล่าว ตามนโยบายของตำรวจทางหลวง ออกกวดขันปราบปรามรถบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดบนทางหลวงแผ่นดิน ซึ่งเวลาประมาณ 13.30 น.ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ออกตรวจจนมาถึงทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ทล.3233 กม.36 ต.วัดละมุด อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ได้พบรถบรรทุกส่วนบุคคล ชนิด 3 เพลา 6 ล้อ ยาง 10 เส้น ยี่ห้ออีซูชุ  หมายเลขทะเบียน 90-5369 นครปฐม วิ่งมาบนถนนลักษณะมีการบรรทุกสิ่งของที่มีน้ำหนักจำนวนมาก
 
จึงได้เรียกให้หยุดรถเพื่อขอตรวจสอบ ซึ่งในระหว่างทางรถบรรทุกค้นดังกล่าวได้ขับหลบหนีด้วยความเร็วสูงลักษณะแซงข้ายแซงขวารถคันอื่นๆ มีการเปลี่ยนช่องทางเดินรถอย่างกะทันหัน เป็นการขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น เป็นการกระทำที่สร้างความวุ่นวายและตื่นตระหนกตกใจขึ้นในที่สาธารณะ รวมถึงอาจทำให้สุจริตชนได้รับอันตรายจากการกระทำของตนเอง
 
ต่อมา รถบรรทุกคันดังกล่าวได้ขับจอดช่องทางด้านซ้ายและเปิดประตูวิ่งลงจากรถไปฝั่งตรงข้ามเพื่อหลบหนีการจับกุม เจ้าหน้าที่จึงได้วิ่งติดตาม จนผู้ขับรถบรรทุกคันดังกล่าว ได้สะดุดและล้มลง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้ และสอบถามทราบชื่อคือ นายพิสิทธิ์ เกตุแก้ว อายุ 53 ปี จากการตรวจสอบพบว่านายพิสิทธิ์ มีบาดแผลที่บริเวณใบหน้าด้านขวา ฝ่ามือด้านขวา และหัวเข่าข้างช้าย เป็นลักษณะแผลถลอกที่เกิดจากสะดุดล้มในระหว่างวิ่งหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวและขอทำการตรวจค้นตัวนายพิสิทธิ์ นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

ทั้งนี้ ยังมีประชาชนที่ใช้ยานพาหนะบนถนนเพชรเกษม ทั้งฝั่งขาเข้าและออกในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ได้ร้องเรียนมาว่ายังมีรถบรรทุกพ่วงบรรทุกดิน หิน ทราย สัญจรตลอดทั้งวัน ซึ่งยังมีหลายคันที่มีการบรรทุกของอยู่ที่ด้านหลังแต่ใช้เพียงผ้าคลุมชนิดบางคลุมผิวดิน หิน ทราย ที่ด้านหลังกระบะ โดยไม่ได้มีการปิดคลุมให้มิดชิด ทำให้ยังมีเศษของสิ่งที่บรรทุกมาปลิวลงมาตกบนผิวการจราจรและกระเด็นโดนยานพาหนะที่วิ่งตามและขับสวนเลนมาหลายครั้ง และยังมีหลายคันที่ขับแช่เลนกลางหรือวิ่งแซงทางขวายาว โดยมีการขับที่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนน จึงขอให้ตำรวจทางหลวงและในพื้นที่ช่วยกวดขันเรื่องดังกล่าวให้เกิดเป็นรูปธรรมด้วย








กำลังโหลดความคิดเห็น