ศูนย์ข่าวศรีราชา - แม่ใจสลายเห็นภาพลูกชายนอนร้องไห้อยากกลับบ้านหลังถูกหลอกไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กัมพูชา เผยไม่ทำถูกทุบตี ซ้อมอย่างหนัก วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องช่วยด่วนเหตุมีคนไทยถูกหลอกอีกกว่า 50 คน
วันนี้ (17 พ.ย.) น.ส.มด (นามสมมติ) อายุ 36 ปี ได้ร้องขอความช่วยเหลือผ่านผู้สื่อข่าวเพื่อให้ประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้การช่วยเหลือลูกชายวัย 18 ปี ซึ่งถูกหลอกไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
น.ส.มด เปิดใจทั้งน้ำตาว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปหาลูกชายที่บ้านพักใน ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังลูกชายขาดการติดต่ออย่างเป็นปริศนา แต่เมื่อไปถึงบ้านกลับพบเพียงรถจักรยานยนต์ของลูกจอดอยู่ เมื่อสอบถามกลุ่มเพื่อนจึงรู้ว่าลูกชายเดินทางไปทำงานที่ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา
กระทั่งวันที่ 7 พ.ย.66 ได้รับข้อความจากลูกชายผ่านข้อความแชตเฟซบุ๊กว่า “แม่หนูอยากกลับบ้าน” พร้อมภาพของลูกชายที่นอนร้องไห้ทำให้หัวใจของคนเป็นแม่แทบสลาย และเมื่อพูดคุยกับลูกจึงรู้ว่าถูกคนรู้จักชักชวนให้ไปทำงานที่ชายแดนปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยหลอกให้ไปทำงานเป็นแอดมินเพจรายได้ดี
แต่พอขึ้นรถเดินทางไปถึงชายแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้ถูกจับคลุมถุงดำพาเดินข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติ ก่อนจะพาขึ้นรถไปที่หมายโดยไม่รู้ว่าเป็นที่ใด
“ลูกบอกว่าถูกบังคับให้อยู่ในห้องที่มีกรงเหล็กล้อมรอบ และมีกระแสไฟฟ้าที่กรงเหล็กตลอดเวลา และยังถูกบังคับให้ทำงานด้วยการโทรศัพท์กลับมาหลอกคนไทยด้วยวิธีต่างๆ เพื่อให้โอนเงิน หากไม่ทำตามจะถูกทุบตีด้วยกระบอง และจะต้องทำงานตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น.ของทุกวัน หากใครทำยอดไม่ได้จะถูกขู่ฆ่าหรือจะขายตัวไปให้กลุ่มอื่นซึ่งเป็นเครือข่ายเดียวกัน และหากใครแอบหลับในเวลางานจะถูกซ้อมอย่างน่าสงสาร อีกทั้งการกินอยู่แสนลำบากเพราะกับข้าวที่ทำเลี้ยง กินไม่ค่อยได้ ต้องแอบต้มมาม่าทุกวัน”
น.ส.มด ยังบอกอีกว่า สาเหตุที่ลูกชายของตนแอบติดต่อมาได้เพราะได้รับการช่วยเหลือจากคนไทยที่ทำงานอยู่ด้วยกันแอบแชร์สัญญาณอินเทอร์เน็ตให้ใช้และแชร์โลเกชันที่ทำงานมาให้ดูเพื่อขอให้หน่วยงานในไทยเข้าช่วยเหลือ โดยขณะนี้มีคนไทยที่ถูกหลอกไปทำงานไม่ต่ำกว่า 50 คน และทุกคนอยากกลับบ้านแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร
“ตอนนี้แม่กับยายทุกข์ใจมาก อยากจะช่วยลูกแต่ไม่รู้ช่องทางติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงต้องร้องผ่านผู้สื่อข่าว
ให้เป็นสื่อกลาง และหลังจากนี้จะเดินทางไปขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี เพื่อขอพึ่งใบบุญต่อไป”
น.ส.มด กล่าว
