เชียงราย - ผบ.กองกำลังผาเมือง หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมรับตัว 41 คนไทยหนีภัยสงครามรัฐฉานเหนือ พบส่วนใหญ่ถูกเพื่อนชวน-เชื่อโซเชียลมีเดียข้ามฝั่งทำงานพม่ารายได้ดี พอไปถึงโดนส่งตัวต่อ-บังคับทำงานอื่นในแหล่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สถานบันเทิง กาสิโน ฯลฯ
วันนี้ (16 พ.ย. 66) พล.ต.ประพัฒน์ พบสุวรรณ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง พร้อมด้วยตัวแทนมณฑลทหารบกที่ 37 โรงพยาบาลค่ายเม็งรายมหาราช และคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา (TBC) ฝ่ายไทย และหน่วยงานในสังกัดกองกำลังผาเมือง ได้ประชุมหารือที่ห้องประชุมด่านศุลกากรแม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย
เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับตัวคนไทยจำนวน 41 คนที่หนีภัยการสู้รบในรัฐฉานตอนเหนือ ซึ่งทางการเมียนมาได้ช่วยเหลือพาออกจากเขตสู้รบแล้ว และทางการไทยประสานให้ส่งตัวกลับผ่านทางจุดผ่านแดนถาวร สะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 เชื่อม จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา กับ อ.แม่สาย โดยมีรายงานว่าทั้ง 41 คนยังอยู่ที่ บก.ภาคสามเหลี่ยม ของกองทัพเมียนมา จ.เชียงตุง ห่างจาก อ.แม่สาย ประมาณ 168 กิโลเมตร
นายจารุวัฒน์ จิณห์มรรคา เจ้าหน้าที่มูลนิธิเอมมานูเอล (IMF Thailand) กล่าวว่า มูลนิธิฯ ได้รับแจ้งจากผู้ปกครองของผู้ลี้ภัยบางคนว่ามีคนไทยจำนวน 7 คนที่อยู่ในจังหวัดภาคเหนือถูกเพื่อนหลอกให้ไปทำงานที่เมืองเล้าก์ก่าย เขตปกครองตนเองโกกั้ง ที่ถือเป็นหนึ่งในศูนย์กลางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แหล่งบันเทิง กาสิโน ฯลฯ อ้างว่าจะให้เงินเดือนเดือนละ 30,000 บาท เพื่อให้เป็นแอดมินเว็บไซต์
เมื่อตกลงจะเดินทางไปก็จะมีบริษัทจัดหางานชาวจีนส่งเงินมาให้ทำพาสปอร์ต และพาเดินทางจากภาคเหนือไปกรุงเทพฯ-มัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา จากนั้นจะมีนายหน้าพาเดินทางต่อไปยังเมืองเล้าก์ก่าย แต่ได้ทำงานที่ผิดข้อตกลง ขณะที่ทางสถานเอกอัครราชทูตไทยได้แจ้งให้ทางการเมียนมาทราบจนทำให้มีการห้ามคนไทยเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวแล้วแต่ก็ยังมีคนถูกหลอกเข้าไปจนได้
"วิธีการหลอกนอกเหนือจากถูกเพื่อนชักชวน ยังมีโซเชียลมีเดียจัดหางานตามเพจต่างๆ แล้วก็จะมีคนเข้ามาทักแชตอ้างว่ามีงานเป็นแอดมินในประเทศเมียนมา แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นเมืองเล้าก์ก่าย เมื่อนั่งเครื่องไปถึงเมืองมัณฑะเลย์ก็จะถูกหลอกต่อไป เมื่อไปถึงเมืองเล้าก์ก่ายแล้วก็ไม่ได้มีงานอย่างที่ตกลงกัน ถ้าไม่ทำก็จะถูกบังคับ ทำร้ายร่างกาย งดอาหาร และหนักสุดคือเสียชีวิต ถ้าอยากกลับบ้านก็จะต้องเสียค่าไถ่ 250,000 บาท หรือหาคนมาแทน 4 คน แต่ท้ายที่สุดหาคนไปแทนแล้วก็ไม่ได้กลับอีก" นายจารุวัฒน์กล่าว
ทั้งนี้มีรายงานว่า ยังมีคนไทยตกค้างในพื้นที่สู้รบรัฐฉานเหนืออีกประมาณ 240 คน ส่วนที่หลบหนีภัยสงครามแล้วได้รับการช่วยเหลือชุดแรกจำนวน 41 คนดังกล่าว ข้อมูลล่าสุดพบว่าเป็นชาย 23 คน และหญิง 18 คน ทั้งหมดได้หลบหนีการสู้รบระหว่างกองกำลังพันธมิตรคือกองทัพโกกั้ง (MNDAA) กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง (TNLA) และกองทัพยะไข่ (AA) กับทหารรัฐบาลเมียนมา บริเวณรัฐฉานตอนเหนือ เมื่อหลบหนีออกมาก็เข้าสู่เขตปกครองพิเศษที่ 2 (สหรัฐว้า) ทำให้ทหารว้าได้พาเดินทางจากเมืองปางซางไปส่งให้ทหารเมียนมาที่เมืองยางและถูกส่งต่อไปที่ จ.เชียงตุง ดังกล่าว ซึ่งเดิมคาดว่าทางการเมียนมาจะส่งทั้งหมดไปยัง จ.ท่าขี้เหล็กภายใน 1-2 วันนี้ แต่ล่าสุดยังไม่มีความชัดเจน