ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตร.พัทยา ตามรวบ 2 คนร้ายชกหน้าชิงโทรศัพท์มือถือแหม่มสาวชาวรัสเซียได้แล้ว อ้างทำเพราะไม่มีเงินซื้อนมให้ลูก ขณะแหม่มสาวสุดดีใจยันเมืองไทยยังปลอดภัยด้านการท่องเที่ยว
จากเหตุการณ์นักท่องเที่ยวสาวชาวรัสเซีย ถูกคนร้ายเป็นชาย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาทำร้ายร่างกายก่อนชิงโทรศัพท์มือถือหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา ริมถนนจอมเทียนสายสอง ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเขต ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา นำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมเร่งติดตามจับกุม 2 คนร้ายเนื่องจากเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซันของเมืองพัทยานั้น
วันนี้ (12 พ.ย.) พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วย พ.ต.ท.ฐานานนท์ อธิพันสีห์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สิทธาภรณ์ แท้เที่ยง สว.สส. พ.ต.ท.ชัยณรงค์ จิตต์สุนทร สว.สส. และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา สามารถจับกุมคนรายที่ก่อเหตุทำร้ายนักท่องเที่ยวต่างชาติได้แล้ว
หลังได้ร่วมกันวางแผนไล่ล่าด้วยการแบ่งกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดกว่า 40 ตัวในพื้นที่ใกล้จุดเกิดเหตุจนรู้ตัวผู้ก่อเหตุคือ นายสกานต์ จิตทวี หรือกานต์ อายุ 27 ปี และนายภานุเดช ศรีสวัสดิ์ หรือแซม อายุ 28 ปี ก่อนขออนุมัติศาลจังหวัดพัทยา ออกหมายจับในข้อกล่าวหาร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะในการหลบหนี
จากนั้นได้ติดตามจับกุม 2 ผู้ต้องหาได้ที่บ้านพักใน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมยึดรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 125 ไอ หมายเลขทะเบียน ขมค 591 ระยอง ที่ใช้ในการก่อเหตุ ส่วนของกลางโทรศัพท์มือถือ ตามยึดได้ที่ร้านรับจำนำแห่งหนึ่งซึ่ง 1 ในผู้ก่อเหตุนำไปจำนำไว้ในราคาเพียง 500 บาท
จากการสอบสวน 2 ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ร่วมกันก่อเหตุดังกล่าวจริง ส่วนแรงจูงใจในการก่อเหตุเป็นเพราะ นายภานุเดช ศรีสวัสดิ์ หรือแซม ไม่มีเงินซื้อนมให้ลูกที่เพิ่งคลอดได้เพียง 15 วัน ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนเองทั้ง 2 ได้พากันขี่รถจักรยานยนต์เล่นกระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุได้เห็นแหม่สาวรัสเซีย เดินผ่านมาและเห็นว่าในมือมีโทรศัพท์มือถืออยู่ นายสกานต์ จิตทวี หรือกานต์ จึงเดินเข้าไปชกที่ใบหน้า 1 ครั้ง และยังทุบตีข้อมือผู้เสียหายเพื่อแย่งชิงโทรศัพท์ก่อนพากันขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี
หลังก่อเหตุได้นำโทรศัพท์ของผู้เสียหายจำนำในราคา 500 บาท ซึ่ง นายสกานต์ หรือกานต์ ได้เงินส่วนแบ่งจำนวน 200 บาท ส่วนนายภานุเดช หรือแซม ได้เงิน 300 บาท และยังรับสารภาพว่าทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ และยังอ้างว่าเพิ่งก่อเหตุเป็นครั้งแรก
ขณะที่ น.ส.อเล็กซานดร้า ริชโคว่า อายุ 23 ปีผู้เสียหายเผยว่า หลังทราบข่าวว่าตำรวจไทย สามารถจับผู้ก่อเหตุได้รู้สึกซาบซึ้งใจในการปฏิบัติงานของตำรวจที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว และยังฝากไปถึงชาวรัสเซีย ที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยว่า ประเทศไทยมีความปลอดภัยและมีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลอย่างเข้มแข็ง