ศูนย์ข่าวศรีราชา - ประเดิมไฮซีซัน แนวคิดขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 นักท่องเที่ยวรัสเซียในเมืองพัทยาถูกคนร้ายต่อยหน้าชิงมือถือสวนทางมาตรการสร้างความปลอดภัย ขณะนายกเมืองพัทยาเรียกประชุมหน่วยงานเกี่ยวข้องหารือมาตรการรองรับการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงในพื้นที่
เมื่อเวลา 02.00 น.วันนี้ (9 พ.ย.) พ.ต.ต.พิชิต ฉ่ำฮวบ สวป.สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งเหตุนักท่องเที่ยวถูกทำร้ายร่างกาย ชิงโทรศัพท์มือถือ เหตุเกิดริมถนนจอมเทียนสายสอง ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเขต ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา นำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบพนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดมิเนียมใกล้จุดเกิดเหตุได้ให้การช่วยเหลือ MISS.ALEKSANDRA RYCHKOVA อายุ 23 ปี สัญชาติรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้เสียหาย และยังอยู่ในอาการตกใจ สภาพได้รับบาดเจ็บจากการถูกต่อยเข้าที่ศีรษะจนปูดบวม เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล
จากการสอบถาม นายวันชัย ไชยศร อายุ 28 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัยทราบว่า ได้เห็นนักท่องเที่ยวหญิงรายดังกล่าวนั่งอยู่บริเวณด้านหน้าคอนโดฯ จึงเข้าไปสอบถามผ่านแอปพลิเคชันแปลภาษา จนทราบว่าถูก 2 คนร้ายชาวไทยถูกทำร้ายชิงเอาทรัพย์สินไป จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ
ขณะที่นักท่องเที่ยวรายดังกล่าวให้การต่อตำรวจว่า ระหว่างทางเดินกลับจากร้านสะดวกซื้อได้ถูกคนร้ายเป็นชายไทย 2 คนซึ่งขี่รถจักรยานยนต์จอดดักอยู่ริมทางวิ่งเข้ามาชกต่อย และแย่งชิงโทรศัพท์มือถือมูลค่า 2,500 บาท วิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ขี่หลบหนีไป
เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้ลงพื้นที่หาเบาะแส และตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามตัวคนร้ายแล้ว
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นความไม่ปลอดภัยในเมืองท่องเที่ยวระดับโลกอย่างพัทยา โดยเฉพาะในช่วงไฮซีซัน ที่จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าพักผ่อนเป็นจำนวนมาก และล่าสุดกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียที่เคยเป็นตลาดหลักของเมืองพัทยา เพิ่งเดินทางแบบเช่าเหมาลำบินตรงจากรัสเซียมาลงสนามบินอู่ตะเภา เพื่อท่องเที่ยวในเมืองพัทยา และภาคตะวันออกเกือบ 400 คน
และตลอดช่วงไฮซีซันนี้ยังจะมีเครื่องบินเช่าเหมาลำบินตรงมาสนามบินอู่ตะเภาอีกสัปดาห์ละ 3 เที่ยว ซึ่งผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวทั้งในเมืองพัทยา และ จ.ระยอง ต่างพากันไปรอรับด้วยหวังว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปีได้
นายกเมืองพัทยาประชุมร่วมหน่วยงานในพื้นที่ กำหนดมาตรการด้านความปลอดภัย-ขยายโซนนิ่งเปิดถึงตี 4
และเมื่อเร็วๆ นี้ นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา เพิ่งจะประชุมหัวหน้าส่วนราชการเพื่อชี้แจงนโยบายและติดตามการดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามกรอบเวลา และตรงกับวัตถุประสงค์ของแนวคิดในการขยายเวลาเปิดให้บริการสถานบันเทิงในเมืองท่องเที่ยวนำร่องอย่างพัทยา จ.ชลบุรี กรุงเทพฯ ภูเก็ต และเชียงใหม่ จนถึงตี 4 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของไทย ซึ่งจะเริ่มโครงการใน 15 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป
โดยสิ่งสำคัญที่ทุกภาคส่วนเป็นห่วงคือเรื่องของการก่อเหตุอาชญากรรม และปัญหาเมาแล้วขับ รวมทั้งปัญหาเรื่องความไม่ปลอดภัยของนักท่องเที่ยว จนต้องมีการระดมกำลังจากทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อร่วมกันทำงาน
นอกจากนั้น ยังมีสถานบริการอีกจำนวนไม่น้อยในเมืองพัทยา ที่เตรียมขออนุญาตเปิดเป็นร้านอาหารและเปิดให้บริการนอกพื้นที่โซนนิ่งเพื่อขอโอกาสในการเปิดให้บริการถึงตี 4 ได้ ซึ่งในเรื่องนี้ เมืองพัทยาเตรียมที่จะรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนกรณีการเปิดเพลงเสียงดังเพื่อไม่ให้กระทบต่อหลายภาคส่วน
พร้อมขอให้เจ้าหน้าที่ทำงานกันอย่างเข้มข้น เพื่อให้เมืองพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ปลอดภัย และกลับมามีนักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อนมากขึ้นกว่าในอดีต แต่ยังไม่ทันได้เริ่มโครงการก็เกิดเหตุในลักษณะดังกล่าวขึ้นแล้ว