บุรีรัมย์- สุดเศร้า แม่และภรรยาร้องไห้แทบขาดใจรับร่างไร้วิญญาณหนุ่มแรงงานเหยื่อสงครามอิสราเอลกลับบำเพ็ญกุศลบ้านเกิด อ.พุทไธสง บุรีรัมย์ ซึ่งถูกส่งกลับพร้อมกัน 2 ราย เผยทั้งจังหวัดยืนยันเสียชีวิต 3 ราย สูญหาย 3 ราย เดินทางกลับแล้ว 400 รายจากแรงงานไปทำงานอิสราเอล 1,189 ราย
วันนี้ ( 17 พ.ย.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาร่างไร้วิญญาณของนายจักรพันธ์ เดี่ยวไธสง อายุ 37 ปี แรงงานชาว ต.บ้านเป้า อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ เหยื่อสงครามอิสราเอลรายที่สองของจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ถูกส่งกลับมาประกอบพิธีทางศาสนายังบ้านเกิด โดยมีครอบครัว ญาติพี่น้อง พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการหลายหน่วยงาน รวมทั้งจ้าหน้าที่ทั้งจากสังกัดกระทรวงแรงงาน สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ นายอำเภอพุทไธสง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ อสม. ได้มาร่วมรอรับศพด้วยความโศกเศร้า
ทันทีที่ร่างไร้วิญญาณมาถึง นางเอมอร เรียงไข และ น.ส.สายชล ชาติกุญชร แม่และภรรยาของนายจักรพันธ์ ยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ต่างร้องไห้ด้วยความเสียใจตลอดเวลา ทางเจ้าหน้าที่ รพ.สต. , อสม.ต้องคอย และญาติต้องคอยปลอดและดูแลอย่างใกล้ชิดเพราะเกรงจะเกิดภาวะช็อกหมดสติ
จากนั้นเวลา 20.00 น. วันเดียวกัน ศพของนายเทียนชัย ยอดทองดี อายุ 32 ปี แรงงานชาวตำบลบ้านยาง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ที่เสียชีวิตจากเหตุสู้รบในอิสราเอล รายที่ 3 ของจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ผ่านการตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์จากทางการอิสราเอล ก็ได้ถูกส่งกลับบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดแล้วเช่นกัน ท่ามกลางครอบครัว ญาติพี่น้องที่มารอรับศพ
ขณะผู้บริหารสังกัดกระทรวงแรงงาน ผู้ว่าราชการจังหวัด นายกเหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ส่งหรีดแสดงความเสียใจกับครอบครัวแรงงานที่เสียชีวิตด้วย พร้อมทั้งได้มอบเงินช่วยเหลือเป็นกำลังใจให้กับครอบครัวจำนวนหนึ่งด้วย
ด้าน ร.อ.กิจสมพงษ์ กล้าหาญ แรงงานจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ขณะนี้มีแรงงานที่เสียชีวิตจากเหตุสู้รบในอิสราเอลได้รับพิสูจน์อัตลักษณ์ถูกส่งกลับมาประกอบพิธีทางศาสนายังภูมิลำเนาแล้ว 3 ราย ยังสูญหายติดต่อไม่ได้อีก 3 ราย ส่วนอีก 400 รายได้เดินทางกลับมาภูมิลำเนาอย่างปลอดภัยแล้ว จากจำนวนแรงงานที่ไปทำงานอิสราเอลทั้งหมด 1,189 ราย ส่วนที่เหลือคาดว่าอยู่ระหว่างตัดสินใจ
สำหรับแรงงานที่เสียชีวิตทั้ง 3 ราย ก็จะได้รับสิทธิ์ประโยชน์ต่างๆทั้งจากทางการไทย และทางการอิสราเอล ซึ่งทางหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานในพื้นที่ก็จะทำการติดต่อประสานงานเพื่อให้ได้รับการช่วยเหลือ เยียวยาอย่างเร่งด่วน